ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันที่ 21 มิ.ย. 2561 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางเมือง ในวันที่ 21 มิถุนายน 2561 เวลา 13.00 นาฬิกา ได้นัดพิจารณาคดีดำที่ อม 26/2561 ระหว่าง คณะกรรมการ ป.ป.ช. โจทก์ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จำเลย เรื่อง การแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน โดยนัดพิจารณานัดแรกหรือฟังคำพิพากษา
โดย นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า Chuchart Srisaeng ระบุว่า
.....ตามบัญชีนัดความของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางเมือง ในวันที่ 21 มิถุนายน 2561 เวลา 13.00 นาฬิกา ได้นัดพิจารณาคดีดำที่ อม 26/2561 ระหว่าง คณะกรรมการ ป.ป.ช. โจทก์ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จำเลย เรื่อง การแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน โดยนัดพิจารณานัดแรกหรือฟังคำพิพากษา
.....การที่ศาลนัดพิจารณานัดแรกหรือฟังคำพิพากษา หมายความว่า ถ้าจำเลยรับสารภาพ ศาลก็จะมีคำพิพากษาลงโทษจำเลยไปในวันนัดครั้งแรก โดยปกติจำเลยที่ถูกฟ้องในเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะให้การรับสารภาพ เพราะศาลจะลงโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนและจะรอการลงโทษให้ คงเสียเฉพาะค่าปรับและถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี
.....นายชูวิทย์เคยถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษมาแล้ว ศาลไม่อาจรอการลงโทษให้ได้อีก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากนายชูวิทย์ให้การรับสารภาพ ก็ต้องถูกลงโทษจำคุกและถูกคุมขังในเรือนจำอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ได้ออกมาจากเรือนจำไม่นาน
.....ถ้านายชูวิทย์ให้การปฏิเสธ ศาลก็จะนัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย แล้วจึงมีคำพิพากษาไปตามรูปคดี ซึ่งก็คงใช้เวลาไม่นานก็จะได้ทราบว่าศาลจะมีคำพิพากษายกฟ้องหรือลงโทษนายชูวิทย์ ถ้าพิพากษาลงโทษนายชูวิทย์ก็จะต้องเข้าไปอาศัยอยู่ในเรือนจำอีกครั้ง