ตำรวจนครบาล ส่งคืนพระพุทธรูปอายุกว่า 100 ปี จำนวน 3 องค์ ที่ยึดได้เมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว ให้กรมศิลปากรไปดูแลต่อ
พระพุทธรูปโบราณ 3 องค์ ที่ ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ตรวจยึดมาได้เมื่อ 39 ปี ที่ผ่านมา ถูกนำมาออกมาจากห้องเก็บของกลาง ของสถานีตำรวจ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมรื้อถอนเพื่อเตรียมส่งมอบให้กรมศิลปากร เพื่อนำกลับไปเก็บรักษาดูแลฃ
โดยงานนี้ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้ทำหน้าที่ส่งมอบพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ให้กับ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ด้วยตัวเอง
และจากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายนำพระพุทธรูปลงเรือมาขึ้นที่ท่าน้ำท่าพระจันทร์ เพื่อลักลอบขายในตลาดมืด ซึ่งขณะนั้นยังมีตลาดนัดสนามหลวงอยู่ แต่คนร้ายเห็นตำรวจจึงทิ้งถุงพระหลบหนี ตำรวจจึงเข้าตรวจยึด ก่อนประกาศหาเจ้าของ แต่ด้วยการสื่อสารที่ไม่ทั่วถึง จึงไม่มีใครมาติดต่อขอรับคืน ตำรวจจึงเก็บไว้ในห้องของกลาง สน.ชนะสงคราม มาจนถึงปัจจุบัน
นางสาวพัชรินทร์ ศุขประมูล ภัณฑารักษ์เชี่ยวชาญ กรมศิลปากร ระบุว่า พระพุทธรูป 3 องค์ องค์แรกเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย มีจีวรลายดอกพิกุล ขนาดหน้าตักกว้าง 41 เซนติเมตร สูง 76 เซนติเมตร คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5
ส่วนองค์ที่ 2 และ 3 เป็นพระพุทธรูปยืน ปางห้ามสมุทร จีวรลายดอกพิกุล ส่วนอีกองค์เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ คาดว่าสร้างขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 3 เป็นต้นมา พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ส่วนใหญ่จะพบเป็นพระประจำวัด ไม่ใช่พระบูชาประจำบ้าน และเป็นของดั้งเดิม ไม่ใช่พระสร้างใหม่ และหากยังประดิษฐานอยู่ที่วัด จะถูกประกาศขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุโบราณอย่างแน่นอน
โดยหลังจากนี้ กรมศิลปากรจะนำพระพุทธรูปเข้าเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อให้เป็นสมบัติของชาติต่อไป