สามีหึงโหด ฆ่าบีบคอเมีย ก่อนนำศพไปฝังดินไว้ในสระน้ำที่แห้งขอด ท้ายหมู่บ้าน ก่อนหนีไปกบดานที่ราชบุรี สุดท้ายลูกชายพาเข้ามอบตัว
วานนี้ พ.ต.อ.สมชาย คมพยัคฆ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธณศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พร้อมหน่วยกู้ชีพ อาสากู้ภัย และ ผู้นำท้องถิ่น ได้เข้าตรวจสอบสระน้ำขนาดใหญ่ ลึก 3 เมตร ซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้านทุ่งรูง ม.6 ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ ราว 700 เมตร หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ว่ามีคนร้ายขอเข้ามอบตัว พร้อมสารภาพว่าได้ลงมือฆ่าภรรยาของตนเอง ก่อนนำมาฝังไว้ในบ่อดังกล่าว ท่ามกลางชาวบ้านที่ออกมาติดตามข่าวเป็นจำนวนมาก และต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงความโหดร้ายของสามีผู้เสียชีวิต
จากการตรวจสอบพบว่า หน้าดินมีลักษณะเพิ่งถูกขุดและฝังกลบสิ่งของบางอย่าง และเมื่อขุดลึกลงไปประมาณ 1 เมตร ก็พบร่างของ นางเมา แก้วสว่าง อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของ นายสมเดช แก้วสว่าง อายุ 62 ปี ชาว บ้านทุ่งรูง ม.6 ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ผู้ก่อเหตุ ก่อนนำศพส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียด
สอบถามน้องชายของผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ก่อนที่พี่ชายจะหนีไป ได้มาบอกกับตัวเองและน้องสาว ว่าได้ฆ่าภรรยาจนตายแล้วเพราะความหึงหวง กลัวว่าจะไปมีชายคนใหม่ ซึ่งตอนแรกครอบครัวไม่เชื่อ แต่เมื่อนึกอีกทีก็พบว่าในคืนวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา พี่ชายได้ขับรถกระบะ มาที่บ้านน้องสาวพร้อมกับถามหาจอบ จากนั้นก็ขับรถออกจากบ้านไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า นายสมเดชได้รับสารภาพ กับตำรวจ สภ.เมืองราชบุรีว่า ทะเลาะกับภรรยา เนื่องจากคิดว่ามีชู้ ด้วยความโมโหจึงได้บีบคอจนเสียชีวิต จากนั้นก็นำศพใส่รถกระบะมาฝังไว้ที่สระน้ำดังกล่าว หลังก่อเหตุได้นั่งรถทัวร์เข้ากรุงเทพฯ และเดินทางต่อไปยังจังหวัดราชบุรี ไปหาลูกชายและเล่าเหตุการณ์ให้กับลูกชายฟัง จากนั้นลูกชายก็ได้พาพ่อไปมอบตัวที่ สภ.เมืองราชบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจอบรถกระบะของผู้ก่อเหตุ ที่ใช้บรรทุกร่างของผู้เสียชีวิตมาฝังในจุดดังกล่าว เพื่อนำไปประกอบในสำนวนดคีต่อไป