svasdssvasds

"ลิซ่า อลิซาเบธ แชดเล่อร์" คุณแม่ อายุครรภ์ 8 เดือน พบเป็นไข้หวัดใหญ่ เอ 2009

"ลิซ่า อลิซาเบธ แชดเล่อร์" คุณแม่ อายุครรภ์ 8  เดือน พบเป็นไข้หวัดใหญ่ เอ 2009

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

คุณลิซ่า อลิซาเบธ แชดเล่อร์ คุณแม่คนสวย อายุครรภ์ 8 เดือน เธอเล่าว่า ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เอ เวอร์ชั่น 2009

เมื่อวันแม่ที่ผ่านมา คุณลิซ่า ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกปวดเบ้าตา ปวดตัว และมีน้ำมูก ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นหวัดธรรมดา ยังคงไปทำงานตามปกติ รู้สึกเพียงแต่ว่า พลังหดหายไปกว่า 50 % และเหลือ 20 % ตอนอ่านข่าวเที่ยว เกิดปวดร้าวไปทั้งตัวจนเกือบเดินไม่ได้ หัวใจเต้นแรง หายใจลำบาก จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลทันที

หลังจากคุณหมอกวาดเสมหะในลำคอ และในจมูกไปตรวจ นอนรอตัวหนาวสั่นอยู่ 45 นาที ระหว่างรอ เธอแอบหาข้อมูลเรื่องโรคไข้หวัดใหญ่กับคนท้องไปด้วย อ่านแล้วยิ่งกังวล เพราะบางข้อมูลก็บอกว่า อาจรุนแรงถึงขั้นแท้งได้ คุณลิซ่าบอกว่าถึงขั้น นอนไม่หลับล่ะค่ะทีนี้ แต่เธอก็นอนร้องเพลง เอามือเคาะท้อง เพื่อเช็คว่าลูกชายยังอยู่ดีไหม ปรากฏว่า ยังตอบสนองกันดีอยู่

แล้วคุณหมอก็เข้ามาบอกผลตรวจว่า เป็น H1N1 ซึ่งกำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งคุญลิซ่า ฉีควัคซีนป้องกันแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสติด ถึง 10 %

คุณลิซ่ากลั้นใจถามคุณหมอต่อว่า จะมีผลกับลูกในท้องไหม คุณหมอบอกว่าไม่มี ไม่ต้องแอดมิท แค่เอายาฆ่าเชื้อไวรัส Tamiflu ไปกินกับยาแก้ปวด ยาแก้แพ้แบบที่ปลอดภัยกับคนท้อง และให้พักผ่อนไป 4-5 วัน ใส่หน้ากากอนามัยด้วย เพื่อไม่ให้ไปแพร่เชื้อต่อ และคอยนับลูกดิ้นด้วย อย่าให้น้อยกว่า 10 ครั้ง ก็ถือว่า หายห่วง

สาเหตุที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ มักจะเป็นไข้ได้ง่าย เนื่องจากเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติ แต่ละคนก็อาจมีอาการที่แตกต่างกันออกไป อาการก็จะเหมือนกับคนทั่วไป คือมีอาการตัวร้อน ร่างกายขาดน้ำ หนาวสั่น ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ และอ่อนเพลีย ในทางทฤษฎี เผยว่า หากมีอาการตัวร้อนมาก ๆ ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ไม่ว่าสาเหตุอาจมาจากการแช่น้ำร้อนนานๆ หรือจากการมีไข้สูง อาจทำให้ระบบท่อประสาทผิดปกติ และเกิดความผิดปกติของเส้นประสาทไขสันหลังได้

อย่าลืมว่า เมื่อคุณกำลังตั้งครรภ์ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต้องทำงานหนักเป็นสองเท่า เพราะนอกจากระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะทำหน้าที่ ป้องกันโรคต่าง ๆ ของตัวคุณแม่เองแล้ว ยังต้องทำหน้าที่ในการดูแลลูกน้อยในครรภ์อีก ดังนั้นหากไข้ไม่ลดภายใน 24-36 ชั่วโมง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที นอกจากนั้น หากคุณมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ พะอืดพะอม มีผื่นขึ้นตามร่างกาย คุณควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนเนื่องจากอาการไข้ที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคอื่นๆ เช่น ลำไส้อักเสบเรื้อรัง อาหารเป็นพิษ ซิฟิลิส โรคเอดส์ หรืออีสุกอีใส

แล้วควรทำอย่างไร หากเป็นไข้ตอนท้อง สามารถทานยาพาราเซตามอลได้ แต่ควรทานให้อยู่ภายในปริมาณที่คุณหมอแนะนำ และไม่ควรทานในช่วงที่อยู่ในระหว่าง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ และคุณหมอส่วนใหญ่มักจะมีคำแนะนำสำหรับคนไข้ที่ตั้งครรภ์ว่าให้หลีกเลี่ยงยาแก้ปวดจำพวกยาเอ็นเสด (NSAIDs ) หรือยาไอบูโปรเฟน (ibuprofen) เพราะจะมีผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดของลูกน้อยในครรภ์ หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงการทานยา คุณอาจสามารถเลือกใช้วิธีการทางธรรมชาติเช่นการอาบน้ำอุ่น หรือใช้ผ้าเย็นวางไว้บริเวณหน้าผากเพื่อเป็นการบรรเทาอาการได้ค่ะ

จะว่าไป ยังมีไวรัสอีกตัวที่ปีนี้ มาแรงน่ากลัว โดยเฉพาะกับหญิงตั้งครรภ์ นั่นก็คือ ไวรัส "ซิกา" ที่ทางสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เผยแพร่เอาไว้ มาไขข้อข้องใจคุณแม่ ที่กำลังกังวลกับเชื้อไวรัสซิกา ที่หญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค แต่หญิงตั้งครรภ์โดยทั่วไป ที่ติดเชื้อ อาจจะไม่มีอาการแสดง มีเพียง 1 ใน 4 คนเท่านั้น ที่จะแสดงอาการ คือมีไข้ต่ำ ๆ ผื่นขึ้นตามร่างกาย เยื่อบุตาอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อ และข้อ อ่อนเพลีย จึงมีคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลกสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ที่อยู่ในพื้นที่การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสซิกา คือ หญิงตั้งครรภ์ และหญิงในวัยเจริญพันธ์ ควรหลีกเลี่ยงการถูกยุงกัดคือการสวมเสื้อแขนยาวปกคลุมผิวหนัง และกางเกงขายาว การฉีดยากันยุง นอนกางมุ้ง และการทายาป้องกันยุงกัด โดยปฎิบัติตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ และสิ่งสำคัญมากคือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงทั้งในบ้าน และสภาพแวดล้อมนอกบ้านบริเวณที่พักอาศัย

ล่าสุด อรรธสอบถามอาการคุณแม่ลิซ่า ไปแล้ว ปรากฏว่า หายดี แข็งแรง ทั้งคุณแม่คุณลูก ที่อีกไม่กี่วัน ก็คงจะได้ออกมาชมโลกแล้ว พร้อมแจกความสดใสให้กับโลกใบนี้กันแล้ว ยินดีกับครอบครัวแซดเล่อร์ด้วยล่วงหน้า หากได้ภาพเบบี้สุดน่ารักจะนำมาอวดให้ชมกัน

 

related