svasdssvasds

เปิดพฤติกรรมดาบตำรวจ ขโมยปืนหลวง 159 กระบอก ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนในวงพนัน

เปิดพฤติกรรมดาบตำรวจ ขโมยปืนหลวง 159 กระบอก ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนในวงพนัน

เปิดพฤติกรรมดาบตำรวจ ขโมยปืนหลวง 159 กระบอก ทำเอกสารปลอมตบตาผู้บังคับบัญชา ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนคุ้นเคยในวงพนัน และประชาชนที่รับซื้อเริ่มทยอยติดต่อตำรวจนำส่งคืนบ้างแล้ว ล่าสุดถูกคุมฝากขังศาลทุจริต เตรียมตรวจสอบขยายผล 

วันที่ 21 ต.ค. 2565 ที่สภ.ปากเกร็ด พนักงานสอบสวน คุมตัว ดาบตำรวจเชาวลิต พุ่มขจร ผบ.หมู่งานธุรการ สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาขโมยปืนหลวงไปขายต่อ มาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนที่ จะคุมตัวไปฝากขังที่ศาลทุจริต ภาค 1 จังหวัดสระบุรี หลังจากเมื่อคืนนี้มีการสอบปากคำมาแล้วตลอดทั้งคืนที่สโมสรตำรวจ และคุมตัวมาที่นี่

โดยขณะที่คุมตัวดาบตำรวจเชาวลิต ออกมาจากห้องคุมขัง เพื่อสอบปากคำนั้น นักข่าวพยายามถามถึงพฤติการณ์ว่าทำมานานแค่ไหน เอาเงินจากการขายปืนไปทำอะไร และอยากพูดอะไรไปถึงผู้บังคับบัญชาหรือไม่เพราะถือว่าทำให้องค์กรตำรวจเสียหาย แต่ ดาบตำรวจเชาวลิต ไม่ตอบคำถามใดๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ทั้งนี้นายดาบตำรวจเชาวลิต ถูกแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ และความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ ซึ่งให้การรับสารภาพว่า ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี

โดยพฤติกรรมของ ดาบตำรวจเชาวลิต จะทยอยนำปืนออกมาจากคลังทีละ 2 ถึง 4 กระบอก ไปจำนำ และขาย รวมกว่า 100 กระบอกที่ได้ขโมยออกมา โดยจัดทำเอกสารเท็จว่า เบิกปืนให้กับกำลังพล สภ.ปากเกร็ด นำไปใช้ ทำให้ผู้บังคับบัญชา ตรวจสอบไม่พบว่าปืนหายไป 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบพื้นที่ 9 จุดเป้าหมายตามที่ นายดาบตำรวจเชาวลิต อ้างว่า เป็นจุดที่นำปืนไปจำนำให้กับผู้รับซื้อ ซึ่งพื้นที่เป้าหมายทั้ง 9 จุดตามอ้างนั้น ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และจ.นนทบุรี แต่ในรายละเอียดยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม

ส่วนกรณีที่ มีผู้นำเอาปืนจำนวน 27 กระบอก ใส่กระเป๋าขนาดใหญ่ มาวางทิ้งไว้ที่หน้าสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต อยู่ระหว่างส่งให้ กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำหลักฐานมาขยายผลทางคดีต่อไป ขณะที่ปืน ที่เหลือ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1  เชื่อว่า จะสามารถติดตามกลับคืนมาได้เกือบทั้งหมด

ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป้าหมายที่เข้าตรวจค้นจะเป็นชาวบ้านที่เปิดรับจำนำอาวุธปืน ซึ่งเป็นที่รู้กันในวงการ และ ยังพบว่ามีประชาชนต่างทยอยมาปรึกษาตำรวจเรื่องการนำอาวุธปืนมาส่งมอบคืนให้ เนื่องจากทราบทางข่าวว่าปืนดังกล่าวเป็นของหลวง โดยเชื่อว่าภายใน2-3วันจะมีการทยอยนำมาส่งมอบคืน

ทั้งนี้มีปืนบางส่วนที่ขายไปให้กับผู้รับซื้อนั้น ก็เป็นเรื่องยากในการติดตาม เพราะคนทั่วไปรู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย และอาจจะกลัวถูกดำเนินคดีย้อนหลัง แม้จะเอามาคืนก็ตาม เพราะเป็นความผิดที่เกิดขึ้น จึงเปรียบเสมือนปรากฎหารณ์คดีเพชรซาอุ ที่มีการนำของกลางมาวางไว้ตามต้นไม้โดยไม่แจ้ง และอาจจะมีคนมาขโมยต่อ ซึ่งหากแจ้งก็เกรงว่าจะถูกดำเนินคดี

ด้านพลตำรวจตรีพนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 บอกอีกว่า ปืนที่ถูกขโมยออกจากคลังอาวุธไปรวม 159 กระบอก โดยแบ่งเป็น ปืนยาว M16 จำนวน 25 กระบอก และ ปืนสั้นจำนวน 134 กระบอก ในจำนวนนี้มีปืนกล็อก 24 กระบอก, ปืนซิกซาวเออร์ 68 กระบอก , และปืนลูกโม่สมิธแอนด์เวสสัน 42 กระบอก ซึ่งเบื้องต้นตำรวจพิสูจน์ทราบผู้รับซื้อปืนโดยตรงจากดาบตำรวจได้แล้ว 11 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนคุ้นเคยในวงพนัน และเมื่อรับซื้อไปแล้วก็มีการขายต่อให้คนอื่นอีกทอดหนึ่ง ซึ่งมีปลายทางอยู่ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พื้นที่กองบัญชาหารตำรวจภูธรภาค 1 และ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งตำรวจทราบบุคลที่ถือครองอาวุธปืนได้แล้ว 95% และคาดว่าจะตามปืนคืนกลับมาได้เกือบทั้งหมดโดยเร็ว