svasdssvasds

ก้าวไกล เปิดสภากาแฟ ชูนครศรีฯเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงนิเวศอันดับ 1 อาเซียน

ก้าวไกล เปิดสภากาแฟ ชูนครศรีฯเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงนิเวศอันดับ 1 อาเซียน

‘ก้าวไกล’ เปิดสภากาแฟกลางเมืองคอน ประชาชนรอเจอ ‘พิธา-ศิริกัญญา’ แน่นร้านโกปี๊ ‘พิธา’ ชูนครศรีฯ เป็นเมืองหลวงท่องเที่ยวเชิงนิเวศอันดับ 1 อาเซียน ย้ำกระจายอำนาจ-แก้ปัญหาหนี้สิน ขอประชาชนเลือกตั้งเพื่อการเปลี่ยนแปลง กาก้าวไกล ได้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

วันที่ 10 มีนาคม 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดสภากาแฟ ที่ร้านโกปี๊ ข้างศาลากลาง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนประเด็นต่างๆ กับชาวนครศรีธรรมราช พร้อมแนะนำนโยบายของพรรคก้าวไกลและแนะนำ ปกรณ์ อารีย์กุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาร่วมแลกเปลี่ยนจนเต็มพื้นที่ร้าน

พิธา กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดนครศรีธรรมราชถูกจัดเป็น ‘เมืองรอง’ แต่ตนและพรรคก้าวไกลต้องการทำให้นครศรีธรรมราชเป็น ‘เมืองที่ต้องมาลอง' เพราะนครศรีฯ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ มีครบทั้ง 3 ธรรม คือธรรมะ ธรรมชาติ และธรรมดา มีอารยธรรมรุ่งเรืองในอดีต มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่สมบูรณ์ เชื่อว่าสามารถยกระดับนครศรีธรรมราชให้เป็น ‘เมืองหลวงของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ’ ของประเทศ และเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงนิเวศอันดับ 1 ของอาเซียนได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย แต่จะทำสิ่งนี้ได้ ต้องขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนเลือกพรรคก้าวไกล เพื่อจะได้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ไม่ใช่การเมืองแบบเดิม ปากท้องแบบเดิม อนาคตแบบเดิม และไม่ใช่แค่เพื่อเปลี่ยนรัฐบาล แต่เพื่อเปลี่ยนประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

การเลือกตั้งครั้งนี้ ทราบว่าคนรุ่นใหม่ที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกที่นครศรีฯ เพิ่มขึ้นประมาณแสนคน มั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ เพราะเรามีว่าที่ผู้สมัคร 10 คน 10 เขต ที่มีประสบการณ์การทำงานหลากหลายและมีความตั้งใจจริงในการทำงานการเมืองตามแนวทางของพรรคก้าวไกล สามารถเปลี่ยนเมืองคอนให้ดีได้กว่านี้

จากนั้น พิธาเปิดพื้นที่ให้ประชาชนสอบถาม คำถามส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับปัญหาหนี้สิน ปัญหาที่ดินทำกิน และการกระจายอำนาจ โดยพิธาเริ่มต้นตอบเรื่องการกระจายอำนาจว่า พรรคก้าวไกลต้องการปลดล็อกท้องถิ่น คือกระจายอำนาจทั้งด้านงบประมาณ ด้านภารกิจ และด้านบุคลากร เพราะที่ผ่านมาแม้เราบอกว่าประเทศไทยกระจายอำนาจแล้ว แต่ทั้ง 3 อย่างนี้ยังไม่ถูกปลดล็อกจริง พรรคก้าวไกลต้องการให้ทุกจังหวัดมีงบประมาณเพียงพอในการดูแลประชาชน พัฒนาจังหวัด และแข่งขันกันพัฒนาพื้นที่ จึงเสนอให้เพิ่มงบจังหวัดจัดการตนเองทุกปี ทั่วประเทศ 200,000 ล้านบาทต่อปี ภายใน 4 ปี แบ่งเป็น จังหวัดละ 250 ล้านบาทต่อปี เมืองละ 100 ล้านบาทต่อปี และตำบลละ 20 ล้านบาทต่อปี ให้ท้องถิ่นมีช่องทางหารายได้ใหม่ เช่น กู้เงิน ออกพันธบัตร และเมื่อเพิ่มงบประมาณ เพิ่มอำนาจให้ท้องถิ่นจัดบริการสาธารณะในพื้นที่ได้ทั้งหมด ยกเว้นไว้เพียงบางเรื่อง ก็ต้องควบคู่ไปกับการเพิ่มความโปร่งใสและการสร้างกลไกตรวจสอบการทำงานของท้องถิ่นที่ประชาชนมีส่วนร่วมด้วย เมื่อเป็นแบบนี้จะทำให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนในนครศรีฯ เกาถูกที่คันแน่นอน

ส่วนปัญหาราคายางและราคาปาล์ม ที่ผ่านมาเราพึ่งพาการส่งออกมากเกินไป และใช้ในประเทศน้อยเกินใน ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงวางแผนว่าในอีก 8 ปีข้างหน้า ต้องทำให้เกิดอุตสาหกรรมที่ส่งเสริมการใช้ยางพารา เช่น การทำสมาร์ทมิเตอร์ หรือรถเมล์ไฟฟ้า นี่คือการสร้างงานซ่อมประเทศ พลิกจุดอ่อนของประเทศเป็นโอกาสสร้างงาน ทำให้ราคายางปรับเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน สร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชน

ด้าน ศิริกัญญา ตอบคำถามนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินว่า ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนมีสัดส่วนเกือบ 90% ของจีดีพี ถือว่าสูงมาก มี 2 แนวทางที่ต้องทำควบคู่กันเพื่อแก้ไข คือการเพิ่มรายได้และการขันน็อตการปล่อยกู้ให้แน่นขึ้น แต่วิธีนี้อาจไม่เหมาะสมกับปัจจุบันที่ทุกคนกำลังฟื้นฟูกิจการกลับมาหลังโควิด  โดยพรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้เกษตรกรเป็นอันดับแรก เพราะตลอด 8 ปี หนี้เกษตรกรเพิ่มสูงขึ้นมาก ขณะที่อายุเฉลี่ยเกษตรกรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เฉลี่ย 60 ปี โดยพรรคก้าวไกลมีนโยบายเร่งปลดหนี้ให้เกษตรกรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ด้วยการนำเอาที่ดินของเกษตรกรไปทำประโยชน์ ทำให้เกิดรายได้เพิ่มและปลดหนี้ไปพร้อมกัน

ส่วนปัญหาหนี้นอกระบบ ภาครัฐควรเข้ามาค้ำประกันให้กับคนตัวเล็กให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ พรรคก้าวไกลมีนโยบายทุนตั้งตัวและทุนสร้างตัวเพื่อต่อยอดธุรกิจ รวมถึงทำให้ธนาคารมีจำนวนเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มการแข่งขันการลดดอกเบี้ย เพิ่มทางเลือกให้ประชาชน ไม่ต้องไปพึ่งแหล่งกู้นอกระบบ ขณะที่ปัญหาแอปเงินกู้ สแกมเมอร์ และแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่หลอกลวงประชาชน เราได้พูดคุยกับหลายหน่วยงานเช่น กระทรวงดีอี แบงก์ชาติ กสทช. เห็นว่าการจบเรื่องนี้ไม่ง่ายนัก เพราะต้นตออยู่ที่ต่างประเทศ แต่สิ่งที่สามารถทำได้ คือต้องกำจัดบัญชีม้าให้หมดไป เช่น ใครที่มีบัญชีธนาคารมากกว่า 5 บัญชี ต้องถูกตรวจใบหน้า และใช้เทคโนโลยีเข้ามาตรวจสอบตรวจจับให้มากขึ้น

 

related