ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ระบุเคยได้ยินมากับหูว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ชักชวนนักธุรกิจให้มาสนับสนุนการตั้งพรรคการเมืองใหม่ เพื่อผลักดัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่ยืนยันตนเองจะไม่กลับมานั่งหัวหน้าพรรคอีกแน่นอน
นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตั้งพรรคการเมืองใหม่ว่า เป็นสิทธิ์ของแต่ละฝ่ายที่สามารถกระทำได้ แต่การตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย โดยผู้ที่เรียกร้องให้มีการตั้งพรรคการเมืองดังกล่าว คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้นักธุรกิจมาช่วยกันตั้งพรรคการเมือง ซึ่งตัวเองได้ยินกับหู จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยถูกต้อง เพราะการตั้งพรรคการเมืองจำนวนมาก จะทำให้เกิดปัญหาภายหลังได้
นายชวนยังยืนยัน ตนเองยังไม่แน่ใจว่าจะมีผู้เสนอให้เป็น 1 ใน 3 รายชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ส่วนที่มีข่าวว่ามีการสนับสนุนให้ตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ยังคงยืนยันว่าพร้อมที่จะสนับสนุนหัวหน้าพรรคคนปัจจุบันคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และจะไม่กลับไปรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีก
นอกจากนั้น นายชวนยังพูดถึงกรณี นายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย เสนอให้พรรคการเมืองที่มีความบาดหมางกัน ให้ก้าวข้ามความบาดหมางและมาร่วมกันปรองดองเพื่อไปสู่การเลือกตั้ง ว่าบ้านเมืองอยู่ได้ด้วยหลักกฎหมาย ความบาดหมางหรือไม่บาดหมางไม่ใช่สาระ ถูกก็ต้องถูก ผิดก็ต้องผิด บ้านเมืองถึงจะอยู่ได้
ส่วนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ภายในเดือน ก.พ. ปี 2562 หรือไม่นั้น ตนไม่กล้ารับรอง เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจคือ คสช. ซึ่งตนเห็นว่าการปกครองในรูปแบบเผด็จการ ผู้ปกครองบ้านเมืองต้องใช้กฎหมายเป็นหลัก ไม่ใช่ใช้อารมณ์ จึงจะสามารถอยู่ได้
กรณีการก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรค จะกระทบกับฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่นั้น นายชวน ยอมรับว่าคงมีบ้าง เพราะแต่ละคนมีความนิยมส่วนตัว แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ยังยึดในแนวทางของประชาธิปัตย์ และที่ผ่านมาก็มีสมาชิกพรรคมาเล่าให้ฟังว่าถูกทาบทามให้ไปร่วมงานกับพรรคอื่น แต่คนเหล่านั้นยังยืนยันที่จะอยู่กับพรรคต่อไป เพราะกลัวสอบตก เหมือนกับที่เคยย้ายไปอยู่กับพรรคของ นายทักษิณ ชินวัตร