svasdssvasds

"บิ๊กตู่" ชี้ช่วงเวลานี้สำคัญก่อนก้าวสู่ประชาธิปไตย - เลือกตั้ง

"บิ๊กตู่" ชี้ช่วงเวลานี้สำคัญก่อนก้าวสู่ประชาธิปไตย - เลือกตั้ง

พล.อ.ประยุทธ์ มองช่วงเวลานี้เป็นเวลาสำคัญในการเตรียมเลือกตั้ง บอกอย่าเชื่อคนห้ามไม่ต้องออกไปใช้สิทธิ์ พร้อมขอการเมืองอย่ามายุ่งกับการทำงานรัฐบาลตอนนี้

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่18 กันยายน ที่หอประชุมประกายเพชรมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัย ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง 1 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และมอบเป็นสักขีพยานในการมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชนให้แก่ประธานป่าชุมชน 5 จังหวัด(ตาก พิษณุโลกเพชรบูรณ์ สุโขทัย และอุตรดิตถ์) พร้อมมอบมอบหนังสือคู่มือการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลให้ราษฎร 434 ราย โดยมอบให้แก่ผู้แทนประชาชน 3 ราย จาก 3ตำบล โดยมีประชาชนมาต้อนรับกว่า 1,000คน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่เราทำในวันนี้จะกลับไปหาทุกคน ส่วนตัวไม่ได้ต้องการให้ใครมารัก และการมาครั้งนี้ก็ไม่ได้ต้องการให้มีการบังคับกันมา แต่อยากให้มาด้วยความเต็มใจเพราะเราจะเติบโตไปด้วยกันบนความแตกต่าง วันนี้เราจึงจำเป็นต้องจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน ซึ่ง 4 ปีมานี้หลายอย่างดีขึ้น ถ้าทำต่อไปก็น่าจะดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ คณะที่เดินทางมาในวันนี้ คือคนที่จะเข้ามาช่วยกันทำงานขอให้มองว่าพวกเขาใช่ศัตรู เพราะเขาต้องถือกฎหมาย ถ้าไม่ถือกฎหมายก็ทำงานลำบาก ถูกฟ้องร้องอย่างไรก็ตามประชาชนต้องมีงานทำ

“เวลานี้ถือว่าเป็นช่วงสำคัญในการก้าวสู่ประชาธิปไตย การเลือกตั้ง ถ้าคิดแบบเดิมเราจะเดินก้าวแรกไม่ได้การเลือกตั้งประชาธิปไตยถือเป็นก้าวที่ 2 ซึ่งเราจะเดินไปอย่างไร หรือเราจะถอยกลับไปที่เดิมอย่างเก่าหลายสิ่งที่เราทำมากดีขึ้นกว่าเดิม เช่น มีการก่อสร้างถนนหนทางต่างๆ ผมแปลกใจว่าทำไมก่อนที่ผมจะเข้ามามันเกิดขึ้น สงสัยกันหรือไม่ เมื่อทุกคนรับปากไปแล้ว หลายคนเข้ามาทำการเมือง ก็ลงพื้นที่ถามท่าน พอถึงเวลา ก็ไปดูว่าที่รับปากไป แล้วเข้า ครม.ทำไมถึงทำไม่ได้ แปลกไหมทั้งนี้ ไม่ต้องกลัวว่ารัฐบาลนี้จะไม่ดูแลท่านเพราะถึงไม่เสนอ ผมก็มีแผนดูแลให้ ผมว่ารัฐบาลหน้าต้องเป็นแบบนี้ ดูแลคนทั้งส่วนใหญ่และส่วนน้อยทั้งคนที่เลือกและไม่เลือก ต้องไม่ขัดแย้งและที่ผ่านมาหลายอย่างถูกครอบงำ ต้องปลดล็อคให้ได้ ทั้งปลดล็อกตัวเองและส่วนรวม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เรากระจายอำนาจแล้ว อย่าบอกว่าไม่กระจาย หลายหน้าที่ได้มอบให้ท้องถิ่นทำ 200-300 กิจกรรม ต่อไปเมื่อปลดล็อกการเมือง คงวุ่นวายพอสมควร ตนไม่อยากยุ่งกับการเมือง แต่การเมืองก็อย่ามายุ่งกับการทำงานของรัฐบาลในเวลานี้ เราต้องการทำให้พี่น้องประชาชน อย่าทำให้สิ่งที่รัฐบาลทำในเวลานี้ล้มเหลว เพราะส่วนตัวเสียดายเวลาของที่ทำมา บางคนอาจคิดว่าตนเข้ามาทำไม ทั้งที่ไม่ได้จ้างให้เข้ามาเลย แต่ยืนยันว่าถ้าไม่เดือดร้อน ไม่มีความจำเป็น ก็คงเข้ามาอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่เด็ก เป็นทหารเก่ามา เห็นแววตาประชาชนว่างเปล่า จึงต้องมาแก้ในเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่ให้เงินอย่างเดียว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งอยู่ในมือของพวกท่าน ฉะนั้นอย่าไปเชื่อใครที่บอกว่าไม่ต้องไปเลือก ให้อยู่อย่างนี้ ไม่ต้องไปเลือกเลย เพราะการทำเช่นนั้นถือว่าอันตรายที่สุด และคนที่ไปเลือกก็จะเหมือนมีการจัดตั้งไว้แล้ว และสุดท้ายก็จะได้การเมืองแบบเดิมประชาธิปไตยจะต้องไม่ทำให้ประเทศชาติขัดแย้งเหมือนเดิม แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยที่มีสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ อยู่กับเราไปตลอด ทั้งนี้สาเหตุที่เขียนเพลงสะพาน นั้นเพราะพวกตนเป็นสะพานให้ทุกคนเหยียบข้ามความขัดแย้งไป และเมื่อตนไม่อยู่ สิ่งที่จะเป็นสะพานในอนาคตคือยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท และต้องมีกรรมการตรวจสอบการทำงานรัฐบาล ซึ่งเหตุผลที่ตนกล้าเขียน เพราะไม่ได้จะไปล็อกใครไว้ และไม่ได้ต้องการผลประโยชน์ใดๆ ซึ่งนอกจากสะพานแล้วยังปักเสาเข็ม ทำหลังคาไว้ให้เรียบร้อยเหลือแต่ทำบ้านให้แข็งแรงสมบูรณ์ ซึ่งทุกคนเป็นส่วนประกอบของบ้านหลังใหญ่ นั่นคือประเทศไทย ซึ่งมีทั้งคนดินน้ำอากาศ เป็นประเทศที่ไม่ใช่เพียงที่ดินเปล่าๆโล่งๆ เพราะทุกคนคือส่วนประกอบของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นฝาบ้านหรืออะไรก็แล้วแต่บ้านจะต้องมีความแข็งแรงและศักยภาพ ที่ตั้งอยู่บนพื้นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ขออย่าทำร้ายหรือเหยียบย่ำด้วยอะไรทั้งสิ้น อย่าเกลียดตน จะเกลียดหรือไม่รักก็ได้ แต่ถ้ารักตน ก็ให้รักนานๆ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยังกล่าวถึงกรณีที่นักการเมืองวิจารณ์หลังจากที่มีการจัดอันดับให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 36 ประเทศหน้าละอายที่มีการคุกคามนักสิทธิมนุษยชนว่า คนที่เอาไปพูดนั่นแหละน่าละอาย เพราะพูดให้ประเทศเสียหาย เราไม่เคยทำแบบนั้น เว้นแต่คนที่ทำความผิด การทำความผิดและการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นเส้นเดียวกัน ถ้าตัวเองทำผิดกฏหมายก็จะต้องยอมรับ

ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การคลายล็อกในตอนนี้พอเพียงแล้ว หากใครไม่พอไว้เป็นรัฐบาล ค่อยมาทำเอง ส่วนการพบกับนักเมืองต้อง รอปลดล็อคก่อน ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนธันวาคม ถึงเวลาตนเองจะพิจารณาเองว่าเป็นวันไหน ช่วงนี้ขอให้บ้านเมืองสงบก่อนได้หรือไม่

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขออย่าสนใจอนาคตทางการเมืองของตนเอง เพราะจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องอะไรจะออกมาให้โดนด่าตั้งแต่วันนี้ สื่อก็หาเรื่องตนเองได้ทั้งวันแหละ

related