นายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการอิสระ มั่นใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกสมัยเกือบ 100 เปอร์เซนต์ แต่ความชอบธรรมจะต่ำ เพราะใช้วิธีประมูลสัมปทานคะแนนเสียงจัดตั้งรัฐบาล คล้ายกับยุคของนายทักษิณ ชินวัตร
นายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการอิสระ กล่าวปาฐกถา 45 ปี 14 ตุลา หัวข้อ “มองประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง ปัญหาที่ใหญ่กว่าการเลือกตั้ง” ตอนหนึ่งว่า ตนมอง คสช. ตั้งใจสืบทอดอำนาจมานานแล้ว เพราะมีการให้พรรคการเมืองมีสิทธิเสนอชื่อคนนอกที่ไม่ใช่ ส.ส. หรือปาร์ตี้ลิสต์ เพิ่มทั้งจำนวน และอำนาจ ส.ว. ตั้งโดยทหาร 250 คน มีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรีได้ และการดึงกลุ่มการเมืองเป็นพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นการการันตีเกือบ 100 เปอร์เซ็นว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกค่อนข้างแน่นอน
นายธีรยุทธ กล่าวต่อว่าหาก พล.อ.ประยุทธ จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แต่จะไม่มีความชอบธรรม เพราะรูปแบบการประสานประโยชน์ระหว่างพลังทหาร ข้าราชการ กลุ่มอนุรักษ์ และกลุ่มทุนใหญ่ ปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และ คสช. ยังทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยังใช้วิธีรักษาอำนาจโดยวิธีประมูลสัมปทานคะแนนเสียงด้วยการแจกเงินให้ชาวบ้านผ่านโครงการของรัฐบาล ซึ่งไม่ต่างจากยุคของ นายทักษิณ ชินวัตร ดังนั้น ตนจึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ และพวกอย่าใช้อภินิหารทางกฎหมายถึงขั้นมีเสียงกล่าวหาว่าเป็นการเลือกตั้งไม่สุจริต จนกลายเป็นชนวนความขัดแย้งขึ้นมาอีก และจุดสำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องถือบทบาทเดียวคือการเป็นนายกรัฐมนตรีที่กำลังบริหารประเทศในช่วงเลือกตั้ง ที่ต้องมีความเป็นธรรม และใจกว้างมากที่สุด
นายธีรยุทธ กล่าวว่า หากไม่มีการโกงเลือกตั้ง เชื่อว่าประชาชนรวมถึงพรรคการเมือง จะยอมรับกติกานี้ไปก่อน และจะหาทางแก้ไขในภายหลัง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีแรงกดดันเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นตัว พล.อ.ประยุทธ์ เองจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการทำงานใหม่ จึงจะสามารถยังเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้