"บิ๊กป้อม" สัมมนา พปชร. โวอยุ่ยาว 4 ปีบ้านเดียวกันอย่าแบ่งก๊ก

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กล่าวปิดสัมมนาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ที่ 88 การ์มองเต้ รีสอร์ท อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เพื่อเสริมศักยภาพ ส.ส. พลังประชารัฐ (เขี้ยวและเล็บ) ว่าครอบครัว พปชร. เป็นครอบครัวใหญ่ เพื่อนำพาประเทศให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างความมั่นคงมั่งคั่งอย่างยั่งยืน พร้อมร่วมกันรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนตลอดไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลัง พล.อ.ประวิตร กล่าวปิดสัมมนา ได้เชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม เหลือเพียงรัฐมนตรีและ ส.ส. อยู่ภายในห้องประชุม จากนั้น พล.อ. ประวิตรได้พูดคุยกับ ส.ส. ว่าขอให้ทุกคนสามัคคี กลมเกลียว ขออย่าให้แตกกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนอีก และไม่ต้องกลัวเรื่องรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ถ้าทุกคนร่วมมืออย่างนี้ และตัวเองจะพยายามทำให้รัฐบาลอยู่ให้ได้ถึง 4 ปี และเมื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จ ก็จะพิจารณาเรื่องการเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค ขณะที่เรื่องการอภิปรายที่ขอให้ตนใจเย็นก็จะนั่งยิ้มอย่างเดียวไม่ตอบโต้และจะไปเตือนนายกฯ ให้ยิ้มด้วย ไปบอกว่าน้อง ๆ ฝากมาบอกว่าอย่านอตหลุด

ทั้งนี้ หลัง พล.อ.ประวิตร พูดเสร็จสิ้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมได้ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณในฐานะตัวแทนส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า ก่อนหน้านี้พรรค อาจจะมีความเห็นที่หลากหลาย มีกลุ่ม มีก๊วน จนทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันบ้าง แต่วันนี้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว เปรียบเสมือนก้อนกรวดที่ต่างคนต่างที่มา วันนี้ก็เกิดการหลอมรวมเป็นแก้วเนื้อเดียวกันปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เกิดจากผู้ที่ไม่สมหวังในตำแหน่งรัฐมนตรี ต่อไปนี้ยืนยันว่าจะเดินหน้า และรักษารัฐบาลนี้ไว้ให้นานที่สุดให้อยู่ได้นาน 4-12 ปี

ด้านนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ ได้ย้ำกับ พล.อ.ประวิตรว่า สิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือเรื่องอารมณ์ ในระหว่างที่มีการอภิปราย ขอให้ พล.อ.ประวิตร ใจเย็น ๆ ยิ้มอย่างเดียวก็ชนะใจแล้ว กินน้ำแข็งเยอะ ๆ ในการอภิปรายเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและพล.อ.ประวิตร อาจจะถูกรุม ซึ่งต้องใจเย็น อาจโดนเยอะหน่อย ซึ่งต้องใจเย็นๆ และขณะนี้ได้เตรียม ส.ส.20 คนเป็นทีมตอบโต้แบบรวดเร็วในสภาไว้แล้ว หากมีการอภิปรายนอกประเด็นก็จะสวนกลับทันที

แหล่งข่าวใกล้ชิดพล.อ.ประวิตร เปิดเผยว่า ในเร็ว ๆนี้ ภายหลังจากที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เสร็จสิ้นไปแล้ว พล.อ.ประวิตร จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อย่างแน่นอน ส่วนตำแหน่งในพรรคอย่างเป็นทางการทางกรรมการบริหารพรรค (กก.บก.) จะหารือกับพล.อ.ประวิตรอีกครั้ง ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ระหว่างการหารือกับฝ่ายกฎหมายและพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ