"อัจฉริยะ" ร้อง ปทส. ฟัน สนช.-นักการเมือง รุกที่ป่า สนามกอล์ฟตระกูล "จึงรุ่งเรืองกิจ" โดนด้วย พร้อมยื่นเอาผิดทุกหน่วยงานเอื้อฟาร์มไก่ "ปารีณา" ด้านกรมป่าไม้ยังรอกฤษฎีกาตีความก่อนดำเนินคดี 682 ไร่
วันที่ 17 ธ.ค. 62 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) 3 กรณี ประกอบด้วย
1. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. 5 คนได้แก่ นายประมุท สูตะบุตร นายวันชัย ศารทูลทัต พล.ท.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ พล.ร.ท.สนธยา น้อยฉายา นางนิสดารก์ เวชยานนท์ ครอบครองที่ดินภ.บ.ท 5 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากพบว่ากระทำความผิดบุกรุกป่าไม้หรือป่าสงวนฯ ขอร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญา ตามรายงานการสืบสวนต่อไป
2. พบนักการเมืองรายหนึ่ง บุกรุกที่ป่าสงวนฯ ทำฟาร์มเลี้ยงหมู ในลุ่มน้ำแม่อาว จังหวัดลำพูน ขอให้มีการตรวจสอบ และดำเนินคดีอาญาตามรายงานการสืบสวนต่อไป
3. สนามกอล์ฟของตระกูล จึงรุ่งเรืองกิจ ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ทำรั้วคล่อมลำรางสาธารณะยึดถือเป็นที่ดินส่วนตัว ซึ่งมีพลเมืองดีแจ้งเข้ามาให้ตำรวจดำเนินการตรวจสอบ ขอคืนคลองสาธารณะจากสนามกอล์ฟดังกล่าว จึงได้ร้องเรียนให้ ปทส.สืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
พร้อมกันนี้ นายอัจฉริยะ ยังได้ยื่นแจ้งความเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยปละละเลย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ให้มีการก่อสร้าง ฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2545 ทั้งกรมปศุสัตว์ อบต.รางบัว และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่อำนวยความสะดวกให้ฟาร์มไก่ดังกล่าวเกิดขึ้นได้ ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นการถือครองที่ดิน ที่ผิดกฎหมาย
นายอัจฉริยะบอกว่า ยังมีข้าราชการและนักการเมืองอีกมาก ที่ถือครองที่ดินรุกป่าอย่างผิดกฎหมาย แต่ไม่ถูกดำเนินคดี ขึ้นอยู่กับว่าหน่วยงานราชการ จะเอาจริงเอาจัง มากน้อยแค่ไหน แต่คนที่โดนคดีส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่ไม่มีเส้นสาย ไม่มีกำลังทรัพย์ในการต่อสู้ ตนยืนยันจะเดินหน้าตรวจสอบเรื่องปัญหาที่ดินที่เหลือมล้ำต่อไป
ส่วนกรณีการดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณา รุกป่า เท่าที่คุยกับทีมกฎหมายของกรมป่าไม้ ระบุว่าจำนวนที่ดินที่รุกเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี 46 ไร่ 1 งาน นั้น ถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน แต่พื้นที่ที่เหลือที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน 682 ไร่ ยังไม่มีเจ้าภาพในการดำเนินคดี ซึ่งส่วนนี้กรมป่าไม้ได้ส่งให้ คณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความ
ด้าน นายจุมพฏ ชอบธรรม ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายกรมป่าไม้ บอกว่า กรมป่าไม้ได้ยื่น 6 คำถาม ให้กฤษฎีกาตีความเรื่องเกี่ยวกับที่ดินในภาพรวม ไม่ได้เจาะจงเฉพาะกรณีของน.ส.ปารีณา ซึ่งมีประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าที่ดินจำนวน 200,000 ไร่ ที่เป็นป่าสงวน มาก่อนเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน และยังไม่มีผู้ใดจับจอง
หากผู้ครอบครองไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านหรือนายทุนยอมคืนพื้นที่จะต้องถูกดำเนินคดีหรือไม่ และใครต้องเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งถ้าหากคืนที่ดินแล้วไม่มีความผิดอันนี้ส่งก็จะรวมไปถึงกลุ่มนายทุนด้วย