ภาคประชาชนชี้! รัฐบาลสอบตกแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ

ภาคประชาชนจัดเสวนา “บ้านเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?” ชี้! รัฐบาลไม่มีนโยบายช่วยให้คนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจตกต่ำ เกิดความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่ไม่มีนโยบายช่วยเหลือที่จับต้องได้

วันที่ 20 ส.ค. 60 – การเสวนา “บ้านเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?” โดยคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน ภายในมูลนิธิ 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว มีการพูดคุยถึงความเหลื่อมล้ำในสังคม โดย รศ.สังศิษ พิริยะรังสรรค์ ประธานสถาบันปฏิรูปประเทศไทย มองว่า คนไทยร้อยละ 20 ร่ำรวยขึ้น แต่จนลงร้อยละ 80 เนื่องจากปัญหาการกระจายรายได้มีความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน จนต้องพึ่งทุนนอกระบบ ซึ่งรัฐบาลควรทำให้คนมีงาน มีรายได้ แต่ตรงกันข้าม ที่รัฐบาลชุดนี้ทำให้คนไม่มีงานทำ หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น อีกทั้งความขัดแย้งทางการเมืองยังทำให้ไทยล้าหลังกว่าประเทศเพื่อนบ้าน

ขณะที่ นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตผู้แทนการค้าไทย เห็นว่า ทุกนโยบายที่พบการทุจริตต้องดำเนินการเด็ดขาดทันที ไม่ว่าจะเป็นคนในหรือคนนอกรัฐบาลก็ตาม แต่สิ่งที่น่าห่วงมากที่สุดเวลานี้ คือ “ภาคเกษตร” ที่รัฐบาลไม่มีนโยบายการช่วยเหลือที่จับต้องได้ แต่การใช้เงินของรัฐกลับสูงขึ้นจากการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

ด้าน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พรรคเพื่อไทย อยากให้ประเทศปรับทัศนคติเกี่ยวกับนโยบายประชานิยม เพราะทั่วโลกก็ใช้นโยบายนี้ช่วยคนจน เพื่อให้มีรายได้ และทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ขณะเดียวกัน ฝากให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบการใช้เงินของรัฐบาลที่ใช้ไปแล้วกว่า 900,000 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น