ปิดฉาก 5 เสือ กกต.

[KGVID]https://spcdn.springnews.co.th/wp-content/uploads/2017/09/4ปิดฉาก5-เสือ-กกต.mp4[/KGVID]

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา กกต. ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุทธยา เป็นวันเดียวกับที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาประกาศกฎหมายลูกว่าด้วย กกต. ดังนั้นการลงพื้นที่ครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนการพบปะและอำลาครั้งสุดท้าย ก่อนที่ กกต. ชุดนี้จะหมดวาระลง

แต่ดูเหมือนจะเป็นการเลี้ยงอำลาไปในคราวเดียวกัน สำหรับกกต.พบสื่อมวลชนสัญจร ที่จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีผลบังคับใช้ ทำให้ กกต.ชุดนี้ หมดวาระลง แต่ให้ทำหน้าที่ต่อไป จนกว่า จะมี กกต.ชุดใหม่ มารับช่วงทำงานต่อ

นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.เปิดใจว่า ตลอดเวลา ที่เข้ามาทำงานเป็นประธาน กกต.ตนรู้สึกภูมิใจตั้งแต่วันแรก เพราะเข้ามาก็ต้องจัดการเลือกตั้งเลย และต้องทำงานภายใต้แรงกดดันทางกลางเมืองด้วย ซึ่งแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ให้ การเลือกตั้งเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นโมฆะแต่ก็ไม่ใช่ความผิดของ กกต. ชุดนี้ สำหรับตนได้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว และตนไม่รู้สึกเสียดายว่าเป็น กกต.แต่จัดการเลือกตั้งไม่สำเร็จ

นายศุภชัย ยังกล่าวด้วยว่า เรื่องของการเซ็ตซีโร่ถือเป็นกฎหมายที่เราต้องปฏิบัติตามและส่วนตัวจะไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อเอาตำแหน่งคืนกลับมาอีกแล้ว

ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง ยืนยันว่า กกต.จะไม่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยโต้แย้งเรื่องเซ็ตซีโร่ กกต.อีกครั้ง แต่ยังคงติดใจเรื่องอำนาจในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น

และอีกประเด็น อำนาจ กกต.1คน สามารถสั่งระงับการเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่พบว่าทุจริตได้ทันที โดยที่ไม่ต้องกลับไปขอมติจากที่ประชุมใหญ่อีก แต่กฎหมายลูก กกต.กลับไม่ให้สิทธิ์ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

ดังนั้น กกต.จะหารือกันในวันที่ 19 กันยายน 2560นี้ ว่าจะทำอย่างไรต่อไป รวมถึงจะพุดคุยกันเรื่องกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้จัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน รวมถึงวันประกาศผลด้วยหรือไม่ เพราะหากยังมีความเห็นไม่ตรงกัน อาจต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

ส่วนกรอบเวลาในการ สรรหา กกต.ชุดใหม่ จะต้องดำเนินการสรรหาให้แล้ว เสร็จภายใน 90 วัน หรือประมาณ วันที่ 12 ธันวาคม 2560นี้ ซึ่งคณะกรรมการสรรหาอาจใช้วิธีเปิดรับสมัคร หรือทาบทามตัวบุคคลผู้ที่เหมาะสม ที่มีคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ซึ่งถือว่าสูงมาก จากนั้น ส่งรายชื่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบประวัติบุคคลตามรายชื่อ กกต.ชุดใหม่ และลงมติเห็นชอบ ช่วงนี้ต้องใช้เวลาประมาณ 45 วัน ทั้งนี้บุคคลที่ได้รับความเห็นชอบ ต้องลาออกจากตำแหน่งปัจจุบันภายใน 15 วัน สุดท้ายคือนายกรัฐมนตรี ต้องนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ จากนั้นคาดว่าจะได้ กกต.ใหม่มาทำหน้าที่ ไม่เกินกลางเดือน มีนาคม 2561

แต่กรอบเวลาต่างๆเหล่านี้ อาจมีการล่าช้าในชั้นการพิจารณาของ สนช.เพราะ สนช.อาจจะไม่เห็นชอบรายชื่อที่กรรมการสรรหาส่งมาให้ หากเป็นเช่นนั้นต้องกลับไปสู่กระบวนการสรรหาใหม่อีกครั้ง ดังนั้นจึงยังตอบไม่ได้ว่า กกต.ชุดใดจะเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้ง เพราะเวลาการสรรหาและกำหนดการที่กฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้ง 4 ฉบับ จะมีผลบังคับใช้ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

สิ่งที่ต้องติดตามหลังจากนี้คือโฉมหน้าของ กกต.ชุดใหม่ ที่จะมาทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งว่าจะเป็นใครมาจากไหนกันบ้าง แต่ที่สำคัญคือจะเป็นไปตามที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์กันก่อนหน้านี้ หรือไม่ว่าการเซ็ตซีโร่ กกต.ก็เพื่อควบคุมการเลือกตั้งเท่านั้น