svasdssvasds

พม. เปิดตัว Start Up SE ธัญบุรีโมเดล เฟส 2

พม. เปิดตัว Start Up SE ธัญบุรีโมเดล เฟส 2

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

 

พม. เปิดตัว Start Up SE ธัญบุรีโมเดล เฟส 2 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

วันที่ 12 ก.ค. 60 -- ประเทศไทยได้ลงมติรับรองเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปี 2559-2573 ภายใต้ความร่วมมือของสหประชาชาติในการกำหนดเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) เป็นวาระการพัฒนาใหม่ของโลก ที่เชื่อมโยงทั้งด้านเศรษฐกิจ, สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักการ 5Ps ได้แก่ ประชาชน, โลก, ความมั่นคง, สันติภาพ และความเป็นหุ้นส่วน โดยเป้าหมายที่สำคัญ คือ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน 

 

 

รัฐบาลได้กำหนดนโยบายการพัฒนาประเทศใหม่ ในด้านการส่งเสริมความร่วมมือทางสังคม ดังที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) และนโยบายสานพลังประชารัฐ เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ทั้งในรูปแบบ CSR (Corporate Social Responsibility) และ SE (Social Enterprise) กิจการเพื่อสังคม โดยรัฐบาลมีมาตรการจูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือชุมชนและสังคม

 

พม. เปิดตัว Start Up SE ธัญบุรีโมเดล เฟส 2

 

โดยการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งประกอบกิจการวิสาหกิจเพื่อสังคม ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการยกเว้นรัษฎาหร (ฉบับที่ 621) พ.ศ. 2559 เพื่อแบ่งเบาภาระของรัฐ ทั้งในเชิงงบประมาณ ความเชี่ยวชาญ เสริมสร้างความรับผิดชอบร่วมกัน นำไปสู่สังคมแห่งความเอื้ออาทรและแบ่งปัน (Caring and Sharing Society)

 

นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กำหนดนโยบายภายใต้แนวคิด “พลังประชารัฐ พลังประชาชน (People, Power, Partners)” กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ โดยจัดตั้ง “กองกิจการอาสาสมัครและภาคประชาสังคม” เพื่อขับเคลื่อนงานด้านความร่วมมือเพื่อสังคม กิจการเพื่อสังคม ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้ 

 

1.การจัดทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการให้คำปรึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ออกแบบอัตลักษณ์ หรือการสร้างแบรนด์ มาตรฐานการผลิต ตลอดจนการใช้แบรนด์ “HOPE” (Social Product by HOPEFUL PEOPLE) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป้าหมายในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง

 

พม. เปิดตัว Start Up SE ธัญบุรีโมเดล เฟส 2

 

2.การจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาต้นแบบ SE และสร้างโมเดล SE ยกระดับมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการใน 3 กลุ่มงาน ได้แก่ สินค้าเพื่อสังคม (Social Product Brand), อาชีวะบำบัด (HOPE) และนิคมเกษตรกรรมยั่งยืน นำร่อง 3 หน่วยงาน ได้แก่ ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งบ้านเมตตา จ.นครราชสีมา และนิคมสร้างตนเองลำตะคอง จ.นครราชสีมา

 

3.จัดตั้งมูลนิธิประชาบดีกิจการเพื่อสังคม เพื่อเป็นกลไกในการสนับสนุนส่งเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือประชารัฐ พัฒนาศักยภาพแก่ผู้ประสบปัฐหาทางสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี กลับมาเป็นพลังที่เข้มแข็งของสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป โดยมี นายมีชัย วีระไวทยะ เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของมูลนิธิฯ

 

4.ดำเนินการนำร่องโครงการ Start Up SE ธัญบุรีโมเดล เฟส 2 เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพคนไร้ที่พึ่งและคนขอทาน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การทำเกษตรผสมผสานในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงธัญบุรี ภายใต้โครงการ “ธัญบุรีโมเดล” และขยายผลไปยังสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 11 แห่งทั่วประเทศ ผลการดำเนินงาน พบว่า คนไร้ที่พึ่งและคนขอทานมีศักยภาพที่ดีขึ้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว เข้าทำงานในสถานประกอบการและมีรายได้สามารถดูแลตนเองได้

 

พม. เปิดตัว Start Up SE ธัญบุรีโมเดล เฟส 2

 

ปัจจุบันได้ขยายผลการพัฒนาศักยภาพคนไร้ที่พึ่ง คนขอทาน มิติใหม่ ภายใต้โครงการ Start Up SE ธัญบุรีโมเดล โดยให้ภาคธุรกิจ/เอกชน หนุนเสริมการพัฒนางานในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งธัญบุรี นอกจากนี้ ร่วมกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ อ.ธัญบุรี ประกอบด้วย โรงเรียนวัดมูลจินดาราม และโรงเรียนวัดเขียนเขต นำนักเรียนร่วมทำกิจกรรมในสถานคุ้มครองฯ เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ตลอดชีวิตตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแหล่งฝึกอบรวมทักษะอาชีพ ผลจากการดำเนินโครงการฯ จะส่งผลให้นักเรียนที่มีความโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สร้างความภูมิใจในการเป็นผู้ให้และกลุ่มผู้รับบริการ มีความภูมิใจและเห็นคุณค่าของตนเองในฐานะผู้ผลิตสินค้า

 

พม. เปิดตัว Start Up SE ธัญบุรีโมเดล เฟส 2

 

กรมพัฒนาและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขอเชิญชวนภาคธุรกิจ/เอกชน และทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจการเพื่อสังคม หรือ SE นำผลกำไรมาลงทุนทำ “กิจการเพื่อสังคม” ซึ่งนอกจากจะได้ประโยชน์ทางตรงจากการประกอบธุรกิจแล้ว กำไรส่วนหนึ่งยังสร้างประโยชน์ต่อสังคมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองกิจการอาสาสมัครและภาคประชาสังคม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ โทร. 02-659-6168 หรือ โทรสายด่วน ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300

 

related