svasdssvasds

นายอำเภอทุ่งฝน สั่งดำเนินคดีคนเผาป่าอ้อย ทำชาวบ้านตกใจ

นายอำเภอทุ่งฝน สั่งดำเนินคดีคนเผาป่าอ้อย ทำชาวบ้านตกใจ

นายอำเภาทุ่งฝน เผยทราบเรื่องเผาป่าอ้อย บ้านนาทม ที่เผยแพร่ผ่านโซเชียลแล้ว สั่งตามตัวเจ้าของ - คนเผามาดำเนินคดี

จากกรณีที่ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jutaporn Rommuang ได้แชร์ภาพการเผาอ้อยที่หลังบ้านของตัวเอง ที่เป็นภาพที่ดูแล้วน่ากลัว โดยเป็นภาพควันและเปลวไฟที่มีการเผาไร่อ้อยดูดำทะมึน พร้อมระบุข้อความว่า “ฝุ่นPM 2.5ที่ว่าแรง ยังไม่สู้ป่าอ้อยหลังบ้านเลย “มหากาพย์ป่าอ้อย..” ถอยรถหนีนำกะบ่ทันนนน..#ฝากแชร์ให้มันถึงนายอำเภอด้วยจ้าาาาาา – ที่บ้านนาทม ต.นาทม อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี” โดยหลังจากที่มีการโพสภาพและข้อความออกไป มีการส่งต่อไปจำนวนมาก จนทำให้มีสื่อต่าง ๆ นำภาพไปนำเสนอข่าว ได้รับความสนใจจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ได้เดินทางไปที่บ้านนาทม ต.นาทม อ.ทุ่งฝน ตามที่ที่มีการโพสตามที่อยู่ที่ระบุ พบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่ไฟที่ไหม้ไร่อ้อยดับลงหมดแล้ว โดยมี นายสมเดช อาจหาร ผช.ผญบ.ม.1 บ้านนาทม ต.นาทม อ.ทุ่งฝน นำตรวจสอบที่บริเวณไร่อ้อยที่ถูกไฟไหม้ โดยบ้านหลังดังกล่าวไม่มีใครอยู่บ้านออกไปทำงาน ตัวบ้านตั้งอยู่ก่อนถึงตัวหมู่บ้าน เป็นบ้านชั้นเดียวปลูกในพื้นที่ริมถนน

ที่บริเวณหลังบ้านอยู่เกือบติดกับไร่อ้อย โดยมีแนวทางถนนดินสำหรับรถไถเข้าไปได้ ห่างจากรั้วของบ้านประมาณ 4-5 เมตร โดยมีบางส่วนที่ยังมีควันไฟโชนขึ้นจากดิน ที่ดินที่ปลูกอ้อยประมาณ 20 ไร่ มีคนงานเข้ามาตัดอ้อยที่ถูกไฟไหม้กองไว้ รอการขนขึ้นรถบรรทุกไปส่งโรงงาน ขณะที่มีคนงานตัดอ้อย พบซากงูที่ถูกไฟไหม้ถือติดมือมา

คนแรงที่มาตัดอ้อยคนหนึ่ง เล่าว่า ตนเป็นคนในหมู่บ้าน รับจ้างตัดอ้อยมากองไว้เตรียมขึ้นรถบรรทุกเท่านั้น เนื่องจากมีคนไปว่าจ้างให้มาตัดอ้อยที่ถูกไฟไหม้เมื่อคืนนี้ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเผาอ้อย ตนรับจ้างตัดเพียงอย่างเดียว โดยจะได้ค่าแรงตัดแบ่งกอง ๆ ละ 3 บาท ที่มีอ้อยกองละประมาณ 30 ท่อน ซึ่งทราบแต่ว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของคนในหมู่บ้าน มีนายทุนมาเช่าปลูกอ้อยเท่านั้น

นายสมเดช อาจหาร ผช.ผญบ.ม.1 บ้านนาทม เปิดเผยว่า ตอนที่ไฟไหม้ไร่อ้อยเมื่อคืนวานนี้ ตนไม่ได้ออกมาดู แต่ตัวผู้ใหญ่บ้านออกมาดู ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าไร่อ้อยแปลงนี้เป็นของใคร ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางผู้นำท้องที่และท้องถิ่น ได้ประกาศให้ชาวบ้านทราบว่า ห้ามจุดไฟเผาอ้อย โดยประกาศรณรงค์ทุกวัน ทางนายอำเภอก็กำชับมาตลอด ในเรื่องของฝุ่นละอองและการห้ามเผาไร่อ้อย แค่เมื่อมีการเผาไร่อ้อยแบบนี้ คงต้องห้ามไม่ให้มีการเผาอย่างเด็ดขาก ซึ่งนี่อาจจะเป็นเคสแรกของบ้านเรา ที่อยู่ติดบ้านคนเลย พูดง่าย ๆ คือ มันสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนของเรา

“ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เผา ตอนนี้เรายังไม่รู้ คงต้องคุยกับตัวผู้ใหญ่บ้านอีกที่ เพราะเมื่อวานขณะเกิดเหตุแกออกมาดู จึงยังไม่รู้ว่าแกจะจัดการอย่างไร เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ก็ขอฝากเตือนผู้ที่ลักลอบเผาว่า มันทำให้เกิดมลพิษ และมีความผิดตามกฎหมาย ถ้าห้ามกันแล้วไม่ฟัง ก๋จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาเราก็รณรงค์ห้ามเผาป่าเผาอ้อย ทางจังหวัดก็มีนโยบายให้พ่อแม่พพี่น้องรณรงค์ไม่ให้เผา เพราะทำให้เกิดสารพิษและอื่น ๆ”

ด้าน นายธนสาร เจริญสุข นายอำเภอทุ่งฝน เปิดเผยว่ารับรายงานเหตุไฟไหม้ไร่อ้อยแล้ว ผู้เสียหายก็เดินทางมาร้องเรียน ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุ่งฝน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงไปติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เบื้องต้นยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนจุดไฟเผา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่มีสื่อต่าง ๆ นำภาพและข้อความจากเฟซบุ๊กJutaporn Rommuang นำเสนอข่าวออกไป ปรากฎว่าทางเจ้าของบ้าน แจ้งว่า อยากให้เรื่องจบลงไป เพราะทางเจ้าของไร่อ้อยได้มาขอโทษทางครอบครัวแล้ว และไม่อยากให้เรื่องยืดยาวออกไป ขณะที่ทางผู้โพสเฟซบุ๊กJutaporn Rommuang ได้ลบภาพและข้อความออกไป พร้อมระบุว่า โพสต์เดียวเปลี่ยนชีวิต คนดังชั่วข้ามคืน.......

related