svasdssvasds

หนุ่มโพสต์เตือนภัย คลินิกผ่าฟันคุดโดยไม่เอกซเรย์ และไม่เย็บแผล ซ้ำราคายังแพง วอนหน่วยงานตรวจสอบ

หนุ่มโพสต์เตือนภัย คลินิกผ่าฟันคุดโดยไม่เอกซเรย์ และไม่เย็บแผล ซ้ำราคายังแพง วอนหน่วยงานตรวจสอบ

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาโพสต์เตือนภัย ประสบการณ์ที่พบเจอกับตัวเอง หลังจากตัด สินใจเข้าไปทำรักษาฝ่าฟันคุดที่คลินิกแห่งหนึ่งในเขตจังหวัดสกลนคร ตามคำแนะนำของเพื่อน แต่ต้องเจ็บปวดทรมานหลังการรักษา เพราะก่อนผ่าถอนฟันคุด ไม่ได้มีการเอกซเรย์ฟัน และไม่มีการเย็บแผล สุดท้ายต้องซนซานไปรักษาที่คลินิกแห่งใหม่

หนุ่มโพสต์เตือนภัย คลินิกผ่าฟันคุดโดยไม่เอกซเรย์ และไม่เย็บแผล ซ้ำราคายังแพง วอนหน่วยงานตรวจสอบ

วันที่ 7 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ เพื่อขอทราบรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าของโพสต์ ก็ยินดีแต่ขอสงวนชื่อและนามสกุล พร้อมเปิดใจว่า สาเหตุที่ตัดสินใจไปรักษาที่คลินิกดังกล่าว เพราะเพื่อนแนะนำ โดยเจ้าของโพสต์ หรือ ต้า นามสมมุติ บอกว่า เมื่อไปถึงคลินิก ได้พูดคุยกับหมอและแจ้งค่าใช้จ่าย คือ ค่าผ่าฟันคุด 1,200 บาท ต่อ 1 ซี่ ไม่นับรวมค่ากรอกระดูก 2 จุด ๆ ละ 600 บาท ตนเองจึงตัดสินใจให้ทำการรักษา โดยหมอได้ใช้ผ้ามาปิดหน้า ก่อนจะฉีดยาชาให้ แต่ระหว่างทำการผ่า ตนเองรู้สึกเจ็บมากจึงพยายามบอกหมอ หมอก็ฉีดยาชาให้อีก แต่การผ่าใช้เวลานานมาก หมอต้องฉีดยาชาให้เป็นระยะ ตนเองจำได้ประมาณ 9 ครั้ง จึงจะสามารถผ่าฟันคุดออกได้ และหมอบอกว่า แผลผ่าตัดเรียบร้อย ไม่ต้องทำการเย็บแผล

หนุ่มโพสต์เตือนภัย คลินิกผ่าฟันคุดโดยไม่เอกซเรย์ และไม่เย็บแผล ซ้ำราคายังแพง วอนหน่วยงานตรวจสอบ

จากนั้นได้มารับยาที่เคาน์เตอร์ หมอได้แจ้งค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมเป็นเงิน 8,335 บาท ซึ่งเกินจากที่ตกลงกันไว้ เพราะต้องคิดเพิ่มจากค่ากรอกระดูก ค่าดูดหนอง ค่ายาชา และอื่น ๆ ซึ่งตอนนั้นถือเงินสดไปไม่พอ จึงขอโอนเงินผ่านแอพ ธนาคารให้ เสร็จเรียบร้อยได้เดินทางกลับมาพักฟื้นที่บ้าน จนตื่นมาตอนเช้า พบว่า ยังมีเลือดไหลออกมาจากแผล จึงตัดสินใจไปหาหมอฟันที่คลินิกแห่งใหม่ โดยได้รับการเอกซเรย์ พบว่า บริเวณจุดที่ผ่ายังมีฟันคุดเหลืออยู่ หมอจึงทำการผ่าตัดซ้ำและเย็บแผลให้เรียบร้อย โดยคิดค่ารักษาเพียง 1,000 บาท เท่านั้น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้รับการรักษาที่ดีพอ และค่าใช้จ่ายก็แพงเกินจากที่ตกลงกันในตอนแรก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการตรวจสอบคลินิดังกล่าว มีมาตรฐานหรือไม่ และผู้ที่เปิดคลินิกดังกล่าว มีใบประกอบวิชาชีพ หรือมีใบอนุญาตหรือไม่

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว ‘ต้า’ (นามสมมุติ) ได้โพสต์ลงเฟสบุ๊ค ระบุว่า “ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าทำไมต้องไปรักษาร้านนั้น เพราะมีเพื่อนมาแนะนำว่าเป็นหมอเก่งมาก แต่ราคาแพง แต่ตนเองก็ตกลงไป และเมื่อไปถึงหมอได้เอาผ้ามาปิดหน้า พร้อมกับชี้แจงรายจ่ายให้ฟัง ซึ่งตนตกลง และขณะที่หมอทำการรักษาอยู่ก็พบว่าหมอทำการรักษาอยู่คนเดียว ทุกอย่างไม่มีผู้ช่วยเลย โดยช่วงที่เริ่มฉีดยารอประมาณ 20 นาที ก่อนที่จะเริ่มผ่าฟันต่อ ซึ่งระหว่างการผ่าตนรู้สึกทรมานมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนที่หมองัดฟันนั้นรู้สึกเหมือนจะหยุดหายใจทนไม่ไหวจนน้ำตาไหล เหมือนยาชาที่หมอฉีดเข้าไปไม่ได้ผลอะไร

ซึ่งในระหว่างนั้นได้บอกหมอว่าไม่ไหวแล้ว เพราะหัวใจเต้นแรงมาก จนขอให้หมอใช้ยาสลบกับตนได้ไหม ซึ่งหมอบอกว่าไม่ได้ โดยตนได้พยายามบอกหมอว่าหัวใจเต้นแรงมาก มือสั่น แต่หมอก็ทำไม่ได้ยิน และไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ยังคงผ่าต่อไปสุดท้ายหมอได้งัดฟันจนรู้สึกมีเสียดังโป๊ะออกมา และหมอบอกว่าเสร็จแล้ว ไม่ต้องเย็บให้ปล่อยไว้แบบนี้

หลังผ่าเสร็จก็ได้จ่ายเงินค่ารักษาไปเป็นจำนวน 8,335 บาท จากนั้นกลับบ้าน แล้วเกิดมีเลือดไหลไม่หยุด สุดท้ายต้องไปหาหมอฟันอีกคลินิกหนึ่ง ซึ่งหมอได้ทำการเอกซเรย์จนมาทราบว่าฟันคุดที่ไปผ่าออกมาไม่หมด ยังติดอยู่ข้างใน ซ้ำหมอจากคลินิกใหม่ยังบอกอีกว่า แล้วไม่เย็บแผลได้ยังไงเพราะมันทำให้เลือดไหลไม่หยุด ซึ่งหมอคนใหม่ได้ทำการเอกซเรย์ เอาฟันที่เหลืออกมา พร้อมเย็บแผลให้ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพียง 1,000 บาทเท่านั้น

related