- “ซาอุฯ” หยุดสถิติความพ่ายแพ้ 12 นัดติดต่อกันใน “ฟุตบอลโลก” ได้สำเร็จ (เสมอ 2 แพ้10)
- “ซาอุฯ” คว้าชัยชนะเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่พวกเขาทำได้ในฐานะน้องใหม่ “ฟุตบอลโลก” ในปี 1994 ด้วยการพลิกล็อคชนะ “เบลเยี่ยม” 1-0 ใน “ฟุตบอลโลก 1994”
- “อียิปต์” ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ใน “ฟุตบอลโลก” เป็นเกมที่ 7 ติดต่อกัน (เสมอ 2 แพ้5) มีเพียง “ฮอนดูรัส” เท่านั้นที่มีสถิติพ่ายแพ้ติดต่อกันมากกว่าพวกเขา (9 นัด)
- “เอสซัม เอล ฮาดารี” ผู้รักษาประตูทีมชาติอียิปต์ วัย 45 ปี 161 วัน กลายเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุด ที่ลงเล่น “ฟุตบอลโลก” รอบสุดท้าย (ทำลายสถิติของ “ฟาริด มอนดรากอน” ของโคลอมเบีย ที่ลงเล่นใน “ฟุตบอลโลก 2014” 43 ปี 3 วัน)
- “เอสซัม เอล ฮาดารี” เซฟได้ 6 ครั้งในเกมนี้ มีเพียง “เคยเลอร์ นาบาส” (7 เซฟ) กับ “กิเยร์โม่ โอชัว” (9 เซฟ) ที่เซฟในเกมเดียวได้มากกว่าเขา
- “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” คือผู้เล่นคนใน 2 ของ “อียิปต์” ในประวัติศาสตร์ ที่ทำได้คนเดียว 2 ประตู ใน “ฟุตบอลโลก” นับตั้งแต่ “อับดุลราห์มาน ฟาว์ซี่” ตำนานลูกหนังอียิปต์ ที่เคยทำได้เมื่อ “ฟุตบอลโลก 1934” (ฟุตบอลโลกครั้งแรกของอิยิปต์)
- “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” คือผู้เล่นที่ทำประตูมากที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับ 3 ของ “อียิปต์” (38 ประตู) เทียบเท่ากับ “โมฮาเหม็ด อับเอาทริก้า” ที่ทำไว้เมื่อปี 2013
ส่วนคู่ชิงแชมป์กลุ่มเอ จบลงโดยชัยชนะของ “อุรุกวัย” ถล่มเจ้าภาพ 3-0 “อุรุกวัย” เก็บ 9 แต้มเต็มจาก 3 นัดในรอบนี้ เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มเอ จะเข้าไปพบกับอันดับ 2 ของกลุ่มบี ในคืนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 01.00น. ตามเวลาประเทศไทย
ส่วน “รัสเซีย” เจ้าภาพมี 6 แต้มเท่าเดิม เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม จะเข้าไปพบกับแชมป์ของกลุ่มบี ในวันเดียวกันเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ขอบคุณภาพจาก FIFA World Cup