5 เหตุสุดวิสัย ที่จะทำให้ "ลิเวอร์พูล" ไม่ได้แชมป์ "พรีเมียร์ลีก"

ว่ากันด้วยเรื่อง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล กับเส้นทางสู่แชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยแรกในรอบ 29 ปี มาเยอะแล้ว หลายเจ้าหลายสำนักก็วิเคราะห์กันไปถึง เส้นทาง สถิติต่างๆ ที่จะส่งให้พลพรรคเร้ด แมชชีน ได้สุขสมหวังกันสักที

แต่ถ้ากลับกัน เหตุการณ์ต่างๆกลับไม่เป็นไปดังหวัง ทุกอย่างดูมืดมนจนท้อใจ มาดูกันว่า5 เหตุสุดวิสัยที่จะทำให้ "ลิเวอร์พูล" ไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก จากทีมงานของเรามีอะไรบ้าง

1-พลาดท่าพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกแดงเดือด

จะว่าไปสถานการณ์ตอนนี้ ก็เหมือนบทละครนิดๆเหมือนกัน แมนฯยูไนเต็ด กำลังดีขึ้นเรื่อยๆหลังแยกทางกับ โชเซ่ มูรินโญ แล้วมาใช้บริการ โอเล กุนนาร์ โซลชา แทน ซึ่งหนากจะว่ากันตามตรงหากยังเป็น "เฮียมู" ที่คุมทีมอยู่เราคงจะไม่ต้องมานั่งวิเคราะห์อะไรแบบนี้ เพราะ "หงส์แดง" คงผ่านเกมนี้ไปได้ไม่ยากเลย

แต่ก็อย่างที่บอก สถานการณ์ตอนนี้ก็เหมือนบทละครนิดๆ "ปีศาจแดง" กำลังดีขึ้นจนแฟนๆเคลิบเคลิ้ม "หงส์แดง" ก็กลับมาดี ที่สำคัญต้องชนะเกมนี้เพื่อรักษาระยะห่าง 3 คะแนนกับแมนฯ ซิตี้ด้วย "แดงเดือด" รอบนี้เดิมพันสูง และน่าจะมันที่สุดในรอบหลายปีหลังนี้เลยก็ได้

2-ตกรอบ 16 ทีม ศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก

การเจอกับ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงที่กลับมาฟื้นไข้ ไม่แพ้ใครมา 9 นัดในลีก นั้นเป็นเรื่องที่หนักหนาพอสมควรสำหรับ "หงส์แดง" ซึ่งกับรายการใหญ่สุดในทวีป จะว่าหวังก็หวัง ไม่หวังก็พูดไม่เต็มปากแบบนี้ หากพลาดพลั้งตกรอบขึ้นมา ก็น่าจะส่งผลกับกำลังใจในการไล่ล่าแชมป์ลีก พอสมควร เพราะอย่าลืมว่าหลังจากนี้จะพลาด หรือสะดุดไม่ได้แม้แต่นัดเดียว

3-ตัวหลักเจ็บ

อันนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ แนวรับจอมแกร่ง และ จอร์จินโญ ไวนัลดุม แดนกลางผู้สร้างสรรค์เกมรุกให้ไหลลื่น

ตลอด 26 นัดที่ผ่านมา ฟาน ไดจ์ ไม่เคยเจ็บ ทำให้เกมรับลิเวอร์พูลนั้นยังแข็งแกร่งเสียแค่ 15 ลูกน้อยสุดในลีกซึ่งแฟนๆคงจะพอจินตนาการได้ว่าถ้าหาก ฟาน ไดจ์ เจ็บขึ้นมาจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับเกมรับของทีม ขณะที่ในรายของ จอร์จินโญ ไวนัลดุม นั้นพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การขาดหายไปของเค้าทำให้ความสมดุลในแดนกลางปั่นป่วน ชัดๆเลยคือเกมล่าสุดกับ เวสต์แฮม และอีกหลายเกมที่ ไวนัลดุม หายไป ซึ่งช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ เหล่า เดอะ ค็อป ต้องช่วยกันภาวนาว่าอย่าให้ 2 คนนี้เจ็บเด็ดขาด

4- ประสบการณ์

ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2013-14 ที่ลิเวอร์พูล เข้าใกล้แชมป์ที่สุด ปีเดียวกับที่เกิดเหตุการณ์ลื่นบรรลือโลก จนสุดท้ายก็ได้รองแชมป์ไปแบบสุดเจ็บปวด ผู้เล่นที่เหลือรอดจากทีมชุดนั้น และยังอยู่จนถึงตอนนี้นั้นมีแค่ 2 รายก็คือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

ดังนั้นหากวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ กับ แมนฯ ซิตี้ ที่อยู่ในพื้นที่ลุ้นแชมป์มาตลอด ตั้งแต่แย่งถ้วยแชมป์จาก "หงส์แดง" ในปีนั้น ก็ยังคงอยู่ในโซนลุ้นแชมป์มาตลอด นี่ยังรวมถึงการคว้าแชมป์แบบไม่เหนื่อยในฤดูกาลที่แล้ว และแทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงทีมเลยในฤดูกาลนี้ ซึ่ง "เรือใบสีฟ้า" กินขาดในส่วนนี้

ลิเวอร์พูล กับ แมนฯซิตี้ รอบนี้ จะซ้ำรอย ฤดูกาล 2013-14 หรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าติดตามจริงๆ

5- ประตูได้เสีย

ถ้าสุดท้ายแล้วทั้ง 2 ทีมคะแนนเท่ากันซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้มากๆ สิ่งที่จะทำให้ลิเวอร์พูล ไม่สมหวังกับถ้วยแชมป์ที่รอคอยก็คือ "ผลต่างประตูได้เสีย" นั่นเอง

จนถึงตอนนี้ (13 ก.พ.) แมนฯ ซิตี้ ยิงไป 74 เสีย 20 ผลต่างประตูได้เสียอยู่ที่ +54 ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยิงไป 59 เสีย 15 ผลต่างประตูได้เสียอยู่ที่ +44 ต่างกันแค่ 10 ประตูก็จริง แต่หากวัดประตูได้ ซิตี้ ยิงเยอะกว่า ถึง 15 ประตู ดังนั้นหลังจากนี้นอกจากเก็บชัยชนะแล้ว "หงส์แดง" ต้องยิงให้เยอะๆ เยอะกว่า แมนฯ ซิตี้ แบบนัดต่อนัดเลยยิ่งดี

คำเตือน นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์จากข้อมูลทางสถิติ รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นและเคยเกิดขึ้นมาแล้ว โปรดใช้วิจารณญานในการรับชมด้วย