วันนี้ 4 กุมภาพันธ์ 2561 ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ พร้อมด้วยภรรยา ลูกสาวและทีมทนายประชาชน ได้เดินทางมาที่ศาลหลักเมืองกาญจนบุรี เพื่อทำพิธีกล่าวคำสาบานตามที่ได้ท้าเอาไว้ โดยในช่วงแรกไม่มีวี่แววของครูปรีชา รวมถึงพยานฝั่งครูทั้งหมดและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกท้าทาย ปรากฏตัวมาร่วมสาบานแต่อย่างใด มีแต่กลุ่มชาวบ้านที่ทราบข่าว เดินทางมาให้กำลังใจกับลุงจรูญ โดยเมื่อเดินทางมาถึง ลุงจรูญและครอบครัว จึงได้จุดธูปเทียนและนำดอกไม้ ขึ้นไปกล่าวคำสาบานต่อศาลหลักเมือง โดยกล่าวยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง ว่าเป็นคนซื้อลอตเตอรี่และเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลตัวจริง ไม่ได้ขโมยมาหรือเก็บได้มาแต่อย่างใด หากตนพูดจริงก็ขอให้ตนและครอบครัว พบแต่ความเจริญรุ่งเรือง หากตนพูดโกหกก็ขอให้ตนเองไม่ตายดี ครอบครัวพบกับความวิบัติ ถูกสาปแช่งจากทั่วทุกสารทิศ

โดยหลังกล่าวคำสาบานเสร็จ ปรากฏว่า มีนางปนัญชยา สุขพูล หรือเจ๊เกียว ซึ่งเป็นแม่ค้าลอตเตอรี่กลุ่มที่เป็นพยานให้กับครูปรีชา เดินทางมาที่ศาลหลักเมืองกาญจนบุรี เพื่อจะสาบานว่าสิ่งที่ตนพูดไปทั้งหมดเกี่ยวกับคดีหวย 30 ล้านเป็นความจริง โดยก่อนที่เจ๊เกียวจะกล่าวคำสาบาน ทางลุงจรูญ ได้ฝากกระดาษคำสาบานมาให้กับเจ๊เกียวกล่าว โดยเจ๊เกียวได้รับไว้และตอบตกลง โดยบอกว่าตนเองก็มีกระดาษเขียนคำสาบานมาให้ลุงจรูญกล่าวเช่นกัน ทั้งคู่จึงตกลงขึ้นมากล่าวคำสาบานต่อหน้าศาลหลักเมืองพร้อมกัน ใจความในคำสาบาน ทั้งคู่ยังคงยืนยันว่าสิ่งที่พูดและกล่าวอ้างไปเป็นความจริง ไม่ใช่คำโกหก หากใครกล่าวคำโกหกก็ขอให้ชีวิตพบกับความวิบัติ ครอบครัวไม่มีความสุขความเจริญพบแต่เรื่องเลวร้าย

หลังกล่าวคำสาบานเสร็จ ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่าทั้งสองคนมีอะไรจะพูดกันหรือไม่ ปรากฏว่าเป็นลุงจรูญที่บอกว่าไม่มีอะไรจะพูด ก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณดังกล่าว ขณะที่เจ๊เกียว ตอบคำถาม ถึงกรณีที่เดินทางมากล่าวคำสาบานเพียงลำพัง โดยไม่มีนางรัตนาพร ซึ่งเป็นเพื่อนแม่ค้าที่อ้างว่าเป็นผู้ขายลอตเตอรี่ให้กับครูปรีชาว่า นางรัตนาพรติดธุระ ต้องไปจองลอตเตอรี่งวดใหม่ ขณะที่ครูปรีชา หลังเกิดเรื่องก็ยังไม่ได้พูดคุยกันอีกเลย ส่วนตนเองที่มา ก็มาในฐานะของตัวแทนผู้ค้าลอตเตอรี่จังหวัดกาญจนบุรีและในฐานะพยานคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งจนถึงวันนี้ ก็ยังยืนยันว่าตนเองเห็นครูปรีชา เป็นคนที่เดินทางมาซื้อลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลจริง ไม่ได้เป็นการสร้างเรื่องหรือการทำงานเป็นขบวนการเพื่อจะใส่ร้ายลุงจรูญแต่อย่างใด

ซึ่งหลังให้สัมภาษณ์เสร็จ ทั้งสองฝ่ายก็ได้แยกย้ายกันไป โดยลุงจรูญ ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี โดยได้ไปจุดธูปสาบานยืนยันความบริสุทธิ์ที่บริเวณหน้าบ้านพักของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะกล่าวคำสาบานยืนยันความบริสุทธิ์แล้ว ยังได้กล่าวสาปแช่งกลุ่มบุคคลที่พยายามใส่ร้ายตน หรือ ให้การเท็จเป็นพยานเท็จในคดีดังกล่าว ให้ชีวิตพบแต่ความวิบัติ ไม่ตายดี ล้มป่วยทุกข์ทรมารด้วยโรคร้ายจนถึงลมหายใจสุดท้าย แต่หากตำรวจคนไหนหรือพยานคนใดที่พูดความจริง ไม่มีจิตคิดร้ายต่อตนก็ขอให้พบเจอแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานและชีวิตครอบครวสืบต่อไป หลังเสร็จจากการกล่าวคำสาบาน ลุงจรูญพร้อมทีมทนายความ ได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เพื่อจะขอเลื่อนวันเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา จากเดิมวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 เนื่องจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ซึ่งเป็นทนายความของลุงจรูญ เดินทางไปต่างประเทศ แต่เนื่องจากคดีดังกล่าว อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจภูธร ภาค 7 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งให้เดินทางไปขอเลื่อนที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 7 อีกครั้ง

Tag: ลุงปรีชา

ลุงจรูญลุยต่อ ! ฟ้องครูปรีชาและสองเจ๊ เบิกความเท็จ

ลุงจรูญเผชิญหน้าเจ๊เกียว สาบานหน้าหลักเมือง ลั่นไม่เคยโกหกลอตเตอรี่ 30ล.