ไม่เคยทอดทิ้ง "น้องแบม" ป.ป.ท.รับทำงาน

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการนำเสนอข่าวน.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม อดีตนศ.ฮีโร่ ที่เปิดเผยข้อมูลการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ไม่ได้ทำงานรับราชการหลังเรียนจบตามที่ผู้ใหญ่ในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) รับปากไว้ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมยืนยันจะดูแลอย่างเต็มที่

ขณะที่กระทรวง พม. ยอมรับได้คุยกับน.ส.ปณิดาจริง โดยครั้งแรกเจ้าตัวยืนยันจะไปอยู่ที่ศูนย์ขอนแก่น เพราะต้องเลี้ยงดูบุพการี ซึ่งผู้บริหารอธิบายต่อน.ส.ปณิดาว่า จำเป็นต้องสมัครสอบเข้ารับราชการตามกระบวนการก่อน และเมื่อได้แล้ว ทางกระทรวงฯ จะดูแลเป็นอย่างดี แต่ น.ส.ปณิดา อาจเกิดความเข้าใจผิดว่าสามารถทำงานได้ทันที จึงไปสมัครงานที่อื่นแทน จนปรากฏเป็นเรื่องราว

ล่าสุด !! กระทรวง พม. แจ้งว่า สามารถรับ น.ส.ปณิดา เข้าทำงานได้ภายในเดือน ต.ค. นี้ โดยเป็นในลักษณะพนักงานจ้างเหมา แต่น.ส.ปณิดา ไม่ประสงค์จะทำงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น แล้ว เนื่องจากจะได้เข้ารับราชการที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แทนในเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีคำชี้แจงดังกล่าว น.ส.ปณิดา ได้ออกมาตัดพ้อทำนองว่า ผู้ใหญ่ไม่ทำตามสัญญาที่จะรับเข้าทำงานในกระทรวงพม. ทั้งที่เคยพูดไว้ต่อหน้านายกรัฐมนตรี และรู้สึกผิดหวังกับคำตอบที่ได้รับระหว่างโทรไปสอบถามผู้ใหญ่ในกระทรวง ซึ่งได้รับคำตอบว่าขณะนี้ยังไม่เปิดรับ และต้องสมัครเข้ามาตามขั้นตอน จนตัวเองต้องไปสมัครเข้าไปทำงานที่อื่นแทนในจังหวัดขอนแก่น ภายหลังจากเรียนจบปริญญาตรี และขณะนี้กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ที่วิทยาลัยนวัตกรรม สาขาผู้นำสังคม ธุรกิจและการเมือง มหาวิทยาลัยรังสิต หลังจากมหาลัยดังกล่าวเสนอให้ทุนเข้ามา

สำหรับ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือ น้องแบม อายุ 23 ปี อดีตนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นผู้ออกมาเปิดโปงความไม่โปร่งใส ภายหลังถูกสั่งให้ปลอมเอกสารราชการตาม หรือโกงเงินคนจน กว่า 6.9 ล้านบาท ขณะเข้าฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น จนส่งผลให้มีการตรวจสอบเอาผิดศูนย์ดังกล่าวอีกหลายแห่ง และมีการเอาผิด ไล่ออกข้าราชการกระทรวงพม.แล้ว 11 ราย ฐานสมคบกันโกงเงินคนจน