คพ. ประกาศใช้ดัชนีคุณภาพอากาศใหม่ ที่นำ PM2.5 มาร่วมคำนวณ เพื่อป้องกันสถานการณ์มลพิษทางอากาศ พร้อมเปิดตัว Application Air4Thai เวอร์ชั่นใหม่
นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า คพ. ได้ให้ความสำคัญในการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ พีเอ็ม 2.5 (PM2.5) ซึ่งเป็นฝุ่นขนาดเล็กมากสามารถซึมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและกระแสเลือดได้ โดยได้กำหนดค่ามาตรฐานฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ในบรรยากาศโดยทั่วไป เมื่อปี 2553 และดำเนินการติดตามตรวจวัดอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันได้ขยายเครือข่ายการตรวจวัดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เป็นจำนวน 28 สถานี ใน 19 จังหวัด และจะขยายเครือข่ายการตรวจวัดให้ครบทุกสถานีภายใน ปี 2563
พร้อมกันนี้ คพ. ได้ปรับปรุงดัชนีคุณภาพอากาศใหม่ โดยรวมเอาพีเอ็ม 2.5 เข้ามาคำนวณด้วย ดังนั้น ดัชนีคุณภาพอากาศใหม่ จะคำนวณจากค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศ 6 ชนิด ได้แก่
1.ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (พีเอ็ม 10)
2.ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (พีเอ็ม 2.5)
3.คาร์บอนมอนนอกไซด์
4.โอโซน
5.ไนโตรเจนไดออกไซด์
6.ซัลเฟอร์ไดออกไซด์
ดัชนีคุณภาพอากาศที่คำนวณได้ของสารมลพิษทางอากาศประเภทใดมีค่าสูงสุด จะใช้เป็นดัชนีคุณภาพอากาศ ณ เวลานั้นๆ
ดัชนีคุณภาพอากาศแบ่งเป็น 5 ระดับ คือ คุณภาพอากาศดีมาก ดี ปานกลาง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยใช้สีฟ้า เขียว เหลือง ส้ม แดง เป็นสื่อแทนความหมายคุณภาพอากาศตามลำดับ ดัชนีคุณภาพอากาศแบ่งระดับตามเกณฑ์โดยเทียบจากค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศของประเทศไทย และผลกระทบสุขภาพจากผลการศึกษาวิจัยและรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO)
ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป คพ. จะเปิดใช้งานเว็บไซต์ http://air4thai.pcd.go.th และแอพพลิเคชั่น Air4thai เวอร์ชั่นใหม่บนอุปกรณ์ทั้งระบบAndroid และ iOS ที่แสดงดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย จากการคำนวณสารมลพิษทางอากาศทั้ง 6 ชนิด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ที่สนใจสามารถติดตามสถานการณ์มลพิษทางอากาศ รวมทั้งฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ล่าสุดได้ทุกชั่วโมง และสามารถป้องกันตนเองได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดสถานการณ์มลพิษทางอากาศ