svasdssvasds

อยู่ที่จิตสำนึก "บิ๊กตู่" ประสานเสียง "บิ๊กป้อม" สั่งเข้มห้ามจยย.ขับขึ้นฟุตบาท

อยู่ที่จิตสำนึก "บิ๊กตู่" ประสานเสียง "บิ๊กป้อม" สั่งเข้มห้ามจยย.ขับขึ้นฟุตบาท

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงปัญหารถจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้าว่า ปัญหาของเราคือคนไม่เคารพกฎหมาย ในการขี่จักรยานบนทางเท้าจะให้เจ้าหน้าที่รอจับอย่างเดียวคงไม่ต้องทำอย่างอื่น จึงเป็นสิ่งที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน นอกจากนี้ในส่วนของกฎหมายจราจรจะต้องให้ออกกฎหมายอะไรอีกในเมื่อยังขับรถกันอยู่แบบนี้ รวมถึงการเมาแล้วขับ ดังนั้นทุกอย่างอยู่ที่จิตสำนึกทั้งสิ้น

" วันนี้เราต้องแก้ไขปัญหารถติด การจราจร และต้องแก้ไขปัญหาคนขี่จักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งต้องห้ามไม่ให้ขี่ ต้องไม่มีการเดินสวนจักรยานยนต์บนทางเท้า โดยต้องไม่ยอมรับกัน เพราะถือเป็นสิทธิของประชาชน รถต้องวิ่งบนถนน เช่นเดียวกับปัญหายาเสพติด จะต้องเฝ้าระวัง และแจ้งเตือน และสื่อมวลชนก็ไม่ควรนำเสนอภาพใบหน้าผู้แจ้งเบาะแสมากนัก เพราะจะทำให้คนไม่กล้าแจ้งเบาะแสเข้ามา เราต้องรักษาสิทธิซึ่งกันและกัน"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ขณะที่  พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการรณรงค์มาตรการการสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ข้ามทางม้าลายว่า ใกล้ถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งพบว่ามียอดผู้เสียชีวิตทั้งปีเป็นจำนวนมากรัฐบาล เราต้องให้ความสำคัญและรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ดังนั้นจึงอยากให้มีการเคารพกฎจราจรซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ เราจะใช้ความเคยชินแบบเดิมๆไม่ได้ จึงต้องให้ทุกฝ่ายร่วมเคารพกฎกติกาและกฎหมาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสามัคคีปรองดอง สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดคือการเคารพกฎจราจร ทางกระทรวงกลาโหมจึงอยากรณรงค์ให้ประชาชนทุกคนทั้งผู้ใช้รถใช้ถนนข้ามถนนบนทางม้าลาย โดยคนขับก็ต้องหยุดรถให้คนข้ามถนน เพื่อจะได้ลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ประเด็นสำคัญคือเมาไม่ขับ เพื่อที่เราจะได้ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เกิดเป็นผลรูปธรรมอย่างแท้จริง

พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหมยังได้กำชับให้กทม.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติกวดขันการขับขี่รถจักรยานยนต์บนฟุตปาธหรือขับขี่ย้อนศร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุซึ่งเราต้องจริงจังและขอความร่วมมือกับผู้ที่ขับขี่บนฟุตปาธ ขอให้ปฏิบัติให้ถูกต้องและเคารพกฎจราจรและเคารพสิทธิ์ของผู้ใช้ทางเท้า ซึ่งวันนี้ถือว่ามีความจำเป็นต้องร่วมกันเคารพกฎหมายและกฎจราจรอย่างเคร่งครัด พร้อมตระหนักถึงผลกระทบของอุบัติเหตุจนนำไปสู่การเสียชีวิตที่อยู่อันดับต้นๆของโลก ส่วนการเพิ่มโทษปรับจาก 500 เป็น 1,000 บาทนั้น เป็นอีกแนวทางหนึ่ง เพื่อให้คนตระหนักต่อเรื่องดังกล่าว แต่ทั้งหมดถือว่าเป็นเรื่องทางกฎหมายว่าจะเหมาะสมหรือไม่

“การเพิ่มโทษปรับถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวินัย  ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายมาตรการ แต่รัฐบาลทำเพียงลำพังไม่ได้ ต้องขอความร่วมมือจากภาคเอกชน รวมถึงวินรถจักรยานยนต์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดระเบียบสังคม จึงต้องขอความร่วมมือ ไม่ให้มีการขี่บนทางเท้าหรือย้อนศร พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้โดยสารไม่ใช้บริการผู้ที่กระทำผิดกฎจราจร” พล.ท.คงชีพ กล่าว

related