แม่น้ำชีที่ จ.ยโสธร แห้งขอดในรอบ 24 ปี

โครงการห้วยหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้ปิดประตูระบายน้ำทั้ง 3 บาน เพื่อกักเก็บน้ำภายในลำห้วยหลวงมาตั้งแต่ต้นปี 2562 ซึ่งเกษตรกรในอำเภอโพนพิสัย และอำเภอเพ็ญ จ.อุดรธานี ได้สูบน้ำในลำห้วย เพื่อใช้ในการเกษตร ทำให้ขณะนี้พบว่า ปริมาณน้ำที่กักเก็บไว้ในลำห้วยเหลือเพียงร้อยละ 50 ซึ่งหลังจากนี้จนถึงเดือน พ.ค. เกษตรกรจะต้องสูบน้ำในลำห้วยมากขึ้น ด้านกรมชลประทาน เตรียมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 เครื่อง สามารถสูบได้ ปริมาตร 3 ลบ.เมตรต่อวินาที/เครื่อง ที่บริเวณประตูระบายน้ำห้วยหลวง ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้

ขณะที่นายสวัสดิ์ นาคสุทธิ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานยโสธร ลงพื้นที่ลำน้ำชีบริเวณด้านหลังวัดท่าข้าม บ้านหนองยาง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง หลังพบว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีที่ไหลผ่านจังหวัดยโสธร แห้งขอดจนสันดอนทรายโผล่กลางลำน้ำไม่มีน้ำไหลผ่าน โดยเฉพาะหลังวัดท่าข้ามที่เห็นได้ชัด จนชาวบ้านสามารถเดินข้ามอย่างสบาย ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อ 24 ปีที่แล้ว และชาวบ้านมีความรู้สึกหวั่นใจว่าจะได้รับผลกระทบต่อการใช้น้ำอุปโภคบริโภค สำหรับการแก้ไขขณะนี้ทางจังหวัดได้ประสานไปยังเขื่อนลำปาวแล้ว เพื่อปล่อยน้ำลงมายังลำน้ำชีวันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันนี้ถึง 1 มีนาคม

ข้อมูลจากสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) รายงานสถานการณ์น้ำที่มีความจุน้อยตามเขื่อนต่างๆ ภาคอีสาน พบว่า เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีปริมาณน้ำ 692 ล้านลูกบาศก์เมตร (ร้อยละ 28) ใช้การได้จริงเพียงร้อยละ 5 ส่วนเขื่อนลำนางรอง จ.บุรีรัมย์ พบว่า มีปริมาณน้ำ 38 ล้านลูกบาศก์เมตร (ร้อยละ 31) และใช้การได้จริงร้อยละ 28 ที่เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี มีปริมาณน้ำ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร (ร้อยละ 33) ใช้การได้จริงร้อยละ 28 และเขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร (ร้อยละ 39) ซึ่งมีน้ำใช้ได้จริงร้อยละ 38 เท่านั้น