ปัตตานี คนร้ายดักระเบิด อส. ดับ 1 เจ็บ 1 นาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 16 กย. ร.ต.อ.สมเจต ทองแผ่น รองสว.(สอบสวน) สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้ง ว่ามีเหตุยิงปะทะและระเบิดขึ้น บริเวณปากทางเข้าโรงเรียนบ้านควนประ หมู่ที่ 5 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วนำกำลังไปที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นเส้นทางเข้าออกบ้านควนประชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย ก่อนนำตัวเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอโคกโพธิ์ จำนวน 2 นาย ส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ ทราบชื่อนายพงศักดิ์ ยอดใจ อายุ 30 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าศีรษะอาการสาหัส แพทย์ต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลปัตตานี ส่วนนายพันลภ ศรีทองแก้ว  อายุ 26  ปี  มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะและบริเวณใต้ราวนมด้านซ้ายอาการสาหัส แพทย์พยายามช่วยชีวิต แต่เนื่องจากบาดแผลฉกรรจ์และเสียเลือดมาก จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ จำนวน 3 คัน ล้มข้างทาง ใกล้กันพบหลุมระเบิด มีชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณและมีปลอกกระสุนจำนวนมากตกเกลื่อนบนถนน เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลนาประดู่ จำนวน 6 นาย ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 43 จำนวน 1 นายเป็นหัวหน้าชุด และ อส. 5 นาย ใช้รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน เดินทางออกจากฐานเพื่อไปรับคณะครูโรงเรียนบ้านควนประเพื่อส่งกลับบ้าน เมื่อมาถึงโรงเรียน เจ้าหน้าที่ทั้ง 6 นาย ได้จัดกำลังในการส่งครูออกจากโรงเรียน โดยให้คณะครูขับรถยนต์นำหน้า ส่วนเจ้าหน้าที่ขับตามหลัง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ซุ่มอยู่ในป่าข้างทางกดระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 10 กก.ที่วางไว้ริมถนนจนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น แรงระเบิดทำให้รถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขับอยู่ตรงกลางกระเด็นตกข้างทาง เจ้าหน้าที่ที่เหลือจึงได้หักรถจักรยานยนต์หลบ ก่อนจะใช้อาวุธปืนประจำกายยิงเข้าไปในป่า เพื่อสกัดกั้นการถูกโจมตีก่อนที่คนร้ายจะล่าถอยเข้าไปในป่า ส่วนคณะครูขับรถพ้นจากจุดเกิดเหตุจึงไม่ได้รับอันตราย

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้สั่งการหน่วยกำลังในพื้นที่ทั้งทหารตำรวจและฝ่ายปกครองเข้าปิดล้อมตรวจค้นและไล่ล่าคนร้ายทันที พร้อมกับขอกำลังทางอากาศบินไล่ล่าคนร้าย จนกระทั่งพบรองเท้าเตะและโทรศัพท์มือถือตกห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีอยู่ในพื้นที่ โดยมีแนวร่วมให้ความช่วยเหลือ เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบพยายามสร้างสถานการณ์