ผลกระทบอิทธิพลน้ำทะเลหนุน อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 

ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจระดับน้ำและความเป็นอยู่ของชาวบ้านในอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี หลังกรมชลประทานประกาศเตือนว่าช่วงระหว่างวันที่ 23-26 กรกฎาคมนี้ จะเกิดน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งอาจทำให้จังหวัดปทุมธานีได้รับผลกระทบจากน้ำที่เอ่อท่วม รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน

อาคารบ้านเรือนใต้ถุนสูง ที่สร้างขึ้นริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในชุมชนบ้านตากแดด หมู่ 3 ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี คือสิ่งที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวชุมชนริมน้ำ ที่นิยมยกพื้นบ้านให้สูง เพื่อเลี่ยงปัญหาน้ำล้นตลิ่งมาเป็นเวลานาน

เล็ก ครองคุ้ม อดีตนายกเทศมนตรีบ้านตากแดด เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ปัญหาน้ำล้นตลิ่ง จากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง เป็นสิ่งที่ชาวบ้านตากแดดคุ้นเคยเป็นอย่างดี จึงไม่รู้สึกเดือดร้อนมากนัก แม้จะมีบางครั้งที่น้ำเอ่อท่วมถึงถนน จนสร้างความลำบากในการสัญจร แต่ชาวบ้านก็เข้าใจดีว่าเป็นธรรมชาติของชุมชนริมน้ำ ที่ระดับน้ำจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงวันโกนวันพระ

ไม่ต่างกับ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รายอื่นๆ ที่มองว่าปัญหาน้ำทะเลหนุน กลายเป็นความเคยชินไปแล้ว เพราะน้ำที่ท่วมสร้างความลำบากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากระดับน้ำขึ้นแต่ละครั้งสูงเพียง 10-20 เซนติเมตร และใช้เวลาไม่เกิน 3-4 ชั่วโมง ก็จะลดลงเป็นปกติ

ขณะที่ ไพรัตน์ ลิ่มสกุล นายอำเภอสามโคก ยืนยันว่าสถานการณ์น้ำโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ได้วางแผนไว้สำหรับอนาคต ในกรณีที่มีการปล่อยน้ำจากเขื่อนมากขึ้น

ทั้งนี้ ระดับน้ำที่สูง 40-50 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเล ถือว่าที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ หากขึ้นสูงถึง 60 เซนติเมตร ถือเป็นระดับที่ต้องเฝ้าระวัง ส่วนระดับน้ำสูงตั้งแต่ 70 เซนติเมตรขึ้นไป น้ำจะเริ่มปริ่มขอบตลิ่ง และหากระดับน้ำขึ้นสูงถึง 90 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเล จึงจะถือว่ามีปริมาณน้ำเกือบล้นตลิ่ง 

ซึ่งข้อมูลจาก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปทุมธานี ระบุว่า จุดวัดน้ำที่บางไทร มีระดับการระบายน้ำอยู่ที่ 1,482 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือเป็นระดับที่ยังไม่น่าเป็นกังวล

[embed]https://youtu.be/ngOig03zcyE[/embed]