พ่อเมืองเพชรบูรณ์สั่งรับมือ "เซินกา" ชาวบ้านครวญหนักสุดรอบ 40 ปี 

วันที่ 29 ก.ค.60 นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอหล่มเก่า เจ้าหน้าที่ทหารจาก ช.พัน 8 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สมาชิก อส. และผู้นำท้องที่เเละท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ตำบลศิลาและตำบลตาดกลอย อำเภอหล่มเก่า หลังมวลน้ำจากอิทธิพลพายุเซินกา และจาก จ.เลย ไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน และพื้นที่ทางการเกษตร ในพื้นที่ 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน กว่า 150 หลังคาเรือน พร้อม เยี่ยมเยียนและกำชับทุกภาคส่วนเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน

นายพิบูลย์ กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยในจ.เพชรบูรณ์ ได้เตรียมการเฝ้าระวังทั้งหมดในพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ใต้เนินเขา อ.หล่มเก่า อ.หล่มสัก และอ.ชนแดน ส่วนในพื้นที่ตอนล่าง อ.วิเชียรบุรี และอ.ศรีเทพ เป็นพื้นที่รับน้ำ จากตอนบนที่ไหลลงไป ตอนนี้ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างมาก บ้านที่อยู่ริมน้ำต้องเผ้าระวัง และรับฟังคำเตือนจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งปัจจุบันได้สั่งการให้นายอำเภอทุกแห่งแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ติดภูเขาและสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ล่าสุดปริมาณน้ำดังกล่าว คาดว่าอีกราว 1 วัน น้ำจะถึงตัวเมืองอ.หล่มสัก จึงขอให้ประชาชนรีบขนย้ายข้าวของไปอยู่บนที่สูง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์น้ำจากแม่น้ำป่าสัก ที่เอ่อทะลักออกจากตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรใน 2 ตำบล ได้แก่ ต.ศิลา และ ต.ตาดกลอย อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ล่าสุดกำลังทหารจากกองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 จำนวนกว่า 60 นาย พร้อมเรือท้องแบน 4 ลำ ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านหมู่ที่ 1 บ้านวังขอน และหมู่ 8 บ้านวังม่วง ต.ตาดกลอย หลังระดับน้ำที่เอ่อทะลักจากแม่น้ำป่าสักเข้าท่วมในหมู่บ้านท่วม สูงราว 50-80 เซนติเมตร และกระแสน้ำยังไหลเชี่ยวกราก   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านระบุว่าน้ำท่วมครั้งนี้หนักและสูงที่สุดในรอบ 40 ปี และด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้หลายครัวเรือนขนย้ายทรัพย์สินไม่ทันจำเป็นต้องปล่อยจมน้ำ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนายอำเภอหล่มเก่า ได้ลงพื้นที่สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ประสบภัย 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน จำนวน 151 ครัวเรือน ส่วนที่บ้านห้วยก้างปลา หมู่ 3 ต.ตาดกลอย น้ำจากแม่น้ำป่าสักเอ่อทะลักเข้าท่วมเช่นกัน ระดับน้ำสูงราว 80-100 เมตร ทำให้ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วม จนไม่สามารถสัญจรเข้าออกหมู่บ้านได้ ชาวบ้านราว 50 หลังคาเรือนต้องถูกตัดขาด ในขณะที่ชาวบ้านบางส่วนขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำไม่ทันเช่นกันทำให้ต้องปล่อยจมน้ำ ซึ่งกำลังทหารได้จัดส่งกำลังพลพร้อมรถครัวเคลื่อนที่ไปติดตั้งและทำอาหารเพื่อแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้าน