“ชายขับเบนซ์ตบเด็ก” ขอโทษ... ไม่มีคำแก้ตัว แจงเครียดทำขาดสติ

วันที่ 5 ก.ค. 60 -- เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายมานะ นิ่มเนียม อายุ 59 ปี ที่ ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากกรณี “คลิปชายขับเบนซ์ตบนักเรียน” จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกโซเชียลมีเดีย

โดย นายมานะ กล่าวเปิดใจกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2560 เวลาประมาณบ่ายโมงเศษ ตนเองรู้สึกผิดมาก ที่ขาดสติและทำลงไปกับเด็กนักเรียน ตนไม่มีคำแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น และยอมรับกับผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำ เพราะทุกวันนี้ตนเองก็โดนกระหน่ำในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก

นายมานะ กล่าวอีกว่า ในวันดังกล่าว ตนเองรู้สึกเครียดมาก เนื่องจากมีปัญหากับลูกค้าจนถูกต่อว่า เพราะคนงานทำงานผิดพลาด ประกอบกับ ลูกสาวของตนไม่สบายอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก และอยากกินห่อหมกมาก ตนจึงชวนเพื่อนไปซื้อห่อหมกให้ลูกกิน พอขับรถกลับมาถึงจุดที่เกิดเหตุ ตนได้จอดรถส่งเพื่อน แต่ก็ถูกนักเรียนขับชนท้าย จึงเกิดอารมณ์โมโห ขาดสติ จึงลงจากรถ แล้วเอามือตบเบา ๆ บริเวณข้างใบหน้าเด็ก 1 ที พร้อมกับพูดจาต่อว่าเด็ก ส่วนที่ให้เด็กโทรเรียกพ่อมานั้น เพราะต้องการให้พ่อเด็กมารับทราบพฤติกรรมลูกชายที่ขับรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และไม่สวมหมวกนิรภัย (หมวกกันน็อค) ด้วย แต่เด็กบอกจำเบอร์โทรศัพท์พ่อไม่ได้ สักพักหนึ่งตนก็ปล่อยเด็กและขับรถกลับไป

ทั้งนี้ นายมานะ ยืนยันว่า ตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และในตอนนี้ที่ยังไม่สามารถจะพบตัวเด็กได้นั้น ก็ต้องขอโทษเด็กนักเรียนตลอดจนครอบครัวผ่านสื่อมวลชนก่อน หลังจากนั้นตนเองจะไปขอโทษเด็กนักเรียนและครอบครัวที่บ้านอีกรอบหนึ่ง และนอกจากคำขอโทษแล้ว ก็จะมีการมอบเงินเป็นสินน้ำใจให้กับครอบครัวเด็กด้วย

ส่วนกรณีเป็นกระแสบนโลกโซเชียลมีเดียนั้น นายมานะ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนเองถูกโลกโซเชียลมีเดียกระหน่ำต่อว่า จนต้องทำการปิดเฟซบุ๊ก “มานะ ล้งไม้” และไม่ได้มีการใช้อีก แต่ปรากฎว่า มีผู้ทำเฟซบุ๊กปลอมของตนขึ้นมาอีก เพื่อตอบโต้กับคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งตนยืนยันว่า เฟซบุ๊ก “มานะ ล้งไม้” ที่ปรากฎอยู่ในขณะนี้ ไม่ใช่เฟซบุ๊กของตน และตนเองยังปิดโทรศัพท์ด้วย เพราะมีผู้โทรมาต่อว่าเป็นจำนวนมาก 

[embed]https://www.facebook.com/koi.max.9/posts/1363282887121320[/embed]

ด้าน พ.ต.อ.วิเชียร ประทุมรัตน์ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว เบื้องต้น ยืนยันว่า บุคคลดังกล่าวไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เป็นตำรวจอาสา หรือ ตำรวจบ้าน ของ สภ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งได้รับการประสานจากคู่กรณีที่ขับเบนซ์แล้วว่า จะเข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในวันนี้ (5 ก.ค.) ส่วนเด็กนักเรียนอยู่ระหว่างการประสานติดต่อมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นเดียวกัน 

ขณะที่ การดำเนินคดีก็ต้องรอให้การสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่าย เสร็จสิ้นลงก่อน และจะต้องให้เด็กไปตรวจร่างกายด้วยว่า ได้รับบาดเจ็บจากการถูกตบหรือทำร้ายร่างกายมากน้อยเพียงใด ซึ่งการจะกล่าวโทษหรือตั้งข้อกล่าวหานั้น ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ยืนยัน เพื่อประกอบการตั้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวอีกว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้แล้ว ก็มีเจ้าของอู่ซ่อมรถติดต่อผ่านมาทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบนว่า หากเหตุการณ์นี้เด็กนักเรียนผิดจริงและรถเบนซ์เสียหาย ทางเจ้าของอู่พร้อมที่จะซ่อมรถเบนซ์ให้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย