แห่ให้กำลังใจ "ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์" ขึ้นศาลคดีฟ้องสื่อหมิ่นไม่อนุมัติสร้างตุงเชียงราย

ที่ศาลจังหวัดเชียงราย นายณรงค์ศักดิ์  โอสถธนากร อดีตผู้บัญชาการสถานการณ์ จ.เชียงราย กรณีช่วยเหลือเยาวชน 13 ชีวิต ติดถ้ำหลวง ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้เดินทางมาสืบพยานโจทก์ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 7 ตามหมายศาลจังหวัดเชียงราย หมายเลขดำที่ อ.3336/61 ซึ่งพนักงานอัยการจังหวัดเชียงรายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงรัฐพับลิชชิ่ง ในข้อหาความผิดฐานหมิ่นประมาท  โดยมีนางเวนิสา เจือจันทร์ เป็นผู้พิพากษา

โดยการพิจารณาได้เริ่มในเวลาประมาณ 09.00 น. ใช้เวลาในการพิจารณาคดีประมาณ 2.30 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้นนายณรงค์ศักดิ์ได้เดินทางออกจากศาลด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม โดยมีประชาชนชาวจังหวัดเชียงรายซึ่งส่วนใหย่มาจากกลุ่มโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลบ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ประมาณ 30 คน  นำดอกกุหลาบสีแดงมายืนรอให้กำลังใจอยู่หน้าศาล ทันทีที่นายณรงค์ศักดิ์ออกมาทางชาวบ้านก็ได้ร่วมกันนำดอกไม้ไปมอบให้ด้วยความอบอุ่น

โดยนางคำ ผาลาด ครูงโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลบ้านดู่ กล่าวว่าทางชาวบ้านไม่ได้รับทราบเกี่ยวกับคดีของอดีตผู้ว่ามากนัก แต่ก็พากันเดินทางมาให้กำลังเพราะเห็นว่าผู้ว่าเป็นคนดี เป็นคนตรงไปตรงมาและขยันทำงาน จึงอยากมาให้กำลังเพื่อจะได้มีกำลังใจในการทำงานต่อไป ซึ่งอยากให้ทางท่านผู้ว่าสู้ๆให้ผ่านพ้นเรื่องราวเหล่านี้ไปได้

ขณะที่ทางนายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่าคดีดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อปี 2560 ซึ่งทางจังหวัดสมัยตนดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ว่าทางหนังสือพิมพ์เชียงรัฐลงข้อความที่คาดเคลื่อน  โดยลงข้อความว่าจังหวัดตอแหล และกล่าวหาว่าทางจังหวัดไม่มีเงินทอน จึงไม่อนุมัติโครงการในท้องถิ่น ซึ่งสำหรับข้าราชการคนหนึ่งลำบากที่จะรับประโยคตรงนี้ แต่ที่สำคัญการกล่าวว่าจังหวัดเป็นการกล่าวหาถึงข้าราชการทั้งจังหวัด ในที่ประชุมกรมการจังหวัดจึงเห็นชอบให้ฟ้องในนามจังหวัด จึงแยกแจ้งความใน 2 ลักษณะคือแจ้งในนามจังหวัด และแจ้งในนามผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตน คือโจทก์ที่1และโจทก์ที่ 2

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่าการมาขึ้นศาลวันนี้มาในฐานะพยาน เนื่องจากอัยการรับเรื่องเป็นคดีและเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง วันนี้มีการสอบสวนพยานประมาณ 5 ปาก ซึ่งเนื้องหาเป็นการพูดถึงเรื่องโครงการก่อสร้างตุง แต่หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวไปหยิบยกเนื้อมานำเสนอมาจากหนังวสือของอำเภอเมืองส่งให้กับทางจังหวัดเพื่อเข้าหารือในคณะกรรมการบริหารกลุ่มจังหวัด ซึ่งมีใจความการพิจารณาว่าโครงการไม่สามารถทำได้เนื่องจากขาดผู้เชี่ยวชาญในการทีโออาร์ แต่หนังสือพิมพ์ไปลงว่าทางจังหวัดตอแหล ไม่มีศิลปินได้อย่างไร จึงเป็นที่มาของการฟ้องเพราะเห็นว่าไม่เป็นธรรมต่อราชการ

นายณรรงค์ศักดิ์กล่าวด้วยสำหรับเหตุจริงๆ ของการไม่อนุมัติโครงการก่อสร้างตุงเนื่องจากเห็นว่าการเสนอโครงการเห็นว่าไม่มีความตรงไปตรงมา เพราะมีประเด็นที่น่าสังเหตุใน 3 ประเด็นคือ 1.ของบประมาณจำนวน 60 ล้านแต่มีการแบ่งซื้อแบ่งจ้าง โดยให้ 50 ล้านเป้นเงินจังหวัดและอีก 10 ล้านเป็นเงินของเทศบาลนครเชียงราย ซึ่งถือเป้นความผิดทางกฎหมาย 2.ตอนร่างทีโออาร์เนื่องจากเป็นการของบ60 ล้านตอนแรกก็จะมีอยู่ 9 กิจกรรมที่ต้องทำ สองกิจกรรมสุดท้ายเป็นการทำสีทองสวยงามและขนย้ายมาติดตั้งในพื้นที่ ซึ่งไม่มีหลักประกันในการก่อสร้างว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ จึงตัดทอนกิจกรรมออกเหลือ 7 ข้อ และเลหืองบประมาณ 50 ล้านบาทแทน และ 3.มีการตั้งวิธีพิเศษขึ้นมาโดยทางอดีตนายอำเภอเมืองเชียงรายคนก่อนซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งการตั้งวิธีพิเศษทางจังหวัดไม่ได้มอบอำนาจให้ตั้งจึงเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแต่ตอนหลังจะให้ทางจังหวัดรับรองในเรื่องที่ผิดกฎหมายทางจังหวัดจึงทำไม่ได้ ล่าสุดได้ให้ทางอำเภอเมืองไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่มีใครยอมเป็นกรรมการทีโออาร์ให้ทำให้ดำเนินการต่อไม่ได้จำเป็นต้องคืนงบแก่ทางจังหวัด ไม่เข้าใจว่าทางหนังสือพิมพ์ไปตีความว่าทางจังหวัดตอแหลได้อย่างไร จริงๆนั้นไม่ไช่

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่าจากการพุดคุยทางสื่อดังกล่าวยอมว่าเป็นการเข้าข้อมูลที่คาดเคลื่อน วันนี้จึงมีการไกล่เกลี่ยกันภายใต้เงื่อนไขว่าจำเลยจะต้องสารภาพผิดและดำเนินการตามเงื่อนไขให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน โดยเผยแพร่ทางสื่อของเชียงรัฐเองทั้งสื่อออนไลน์และสิ่งพิมพ์ และสื่อส่วนกลบางระดับประเทศอีก 1 แห่ง  แล้วจะมีพุดคุยกันอีกทีในเดืนอมกราคมปี 2562 ซึ่งตนก็เห็นว่าเป็นธรรมแล้วเพราะตนไม่ได้หวังอะไรเพียงแค่ต้องการรักษาศักดิ์ศรีของความเป็นข้าราชการที่ทุกคนตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ตรงไปตรงมา ต่อไปหากข้าราชการทั้งหมดแม้แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดเองยังโดนกล่าหาอย่างงี้ในอนาคตข้าราชการชั้นผู้น้อยที่จะทำถูกกฎหมายหรือป้องกันสิทธิของประชาชนส่วนใหญ่ก็จะไม่มีใครป้องกันเขาได้การต่อสู้มาปีกว่าก็ถือว่าวันนี้ได้รับความเป็นธรรมแล้ว

ด้านนางปราณี สังข์ขาว ตัวแทนกรรมการบริหารห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงรัฐพับลิชชิ่ง กล่าวว่าทางหนังสือพิมพ์ตนไม่มีเจตนาที่จะให้ร้ายกับทางจังหวัด ซึ่งต้องยอมรับว่าได้รับข้อมูลมาที่คาดเคลื่อน ซึ่งได้มีการแจ้งต่อทางฝ่ายโจทย์แล้ว โดยจะมีการลงข้อความเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในหนังสือพิมพรายปักษ์ของตัวเองเป็นเวลา 2 ฉบับและสื่อส่วนกลางอีก 1 ฉบับตามความต้องการของฝ่ายโจทก์

รายงานข่าวแจ้งว่าคดีฟ้องร้องดังกล่าวถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 30 ส.ค.2560 เมื่อมีการประชุมหัวหน้าส่วนราชการใน จ.เชียงราย และทางจังหวัดหยิบกรณีโครงการดังกล่าวซึ่งจะสร้างด้วยโลหะบอร์นสูง 15 เมตร โดยมีการขอใช้งบประมาณของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ 2 ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์ได้แจ้งถึงข้อสงสัยในโครงการดังกล่าวและแจ้งเหตุผลที่ไม่อนุมัติโดยเฉพาะอ้างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุปี 2535 ข้อ 22 วรรค 2 ที่ระบุว่า "การแบ่งซื้อหรือแบ่งจ้างโดยลดวงเงินที่จะซื้อหรือจ้างในครั้งเดียวกันเพื่อให้วงเงินต่ำกว่าที่กำหนดโดยวิธีหนึ่งวิธีใดหรือเพื่อให้อำนาจสั่งซื้อสั่งจ้างเปลี่ยนไปจะกระทำมิได้" กระทั่งเกิดการฟ้องร้องกันขึ้นดังกล่าว.