ลูกชาย วัย 34 ปี ขอเงินแม่ 1 พันบาทไปทำงานกรุงเทพฯ แต่แม่ไม่มีให้ ฉุนจัดจุดไฟเผาบ้านวอดทั้งหลัง
ร.ต.อ.อาวุฒิ เบ็ญจโชติ รอง สว.สอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนเลขที่ 109 ในชุมชุนบ้านหนองหูลิง หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ พร้อมเร่งประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นายกเทศมนตรีเมืองกุฉินารายณ์ หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ อ.กุฉินารายณ์ หน่วยกู้ภัยกุดหว้า เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ สาขากุฉินารายณ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองกุฉินารายณ์
พื้นที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งมีนางสั่น อายุ 68 ปี เป็นเจ้าของบ้าน เพลิงกำลังลุกไหม้บ้านทั้งหลังอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันฉีดน้ำสกัดไฟอย่างเต็มที่ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่บ้านก็ถูกไฟไหม้ทั้งหลัง เนื่องจากชั้นบนของบ้านเป็นไม้ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และยังมีทรัพย์สิน รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า สาเหตุการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้เกิดจากลูกชายเจ้าของบ้านทราบชื่อ คือ นายวิชัย อายุ 34 ปี เป็นผู้จุดไฟเผาบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้สอบสวน และนำตัวไประงับสติอารมณ์ที่โรงพัก
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนนายวิชัย ยอมรับว่า จุดไฟเผาบ้านจริง เนื่องจากก่อนเกิดเหตุตนได้ขอเงินนางสั่น ผู้เป็นแม่ 1,000 บาท เพื่อที่จะเดินทางไปทำงานกรุงเทพฯ แต่แม่ไม่มีให้ และไม่รู้จะหาที่ไหนมาให้ เพราะนายวิชัยอยู่บ้านไม่ได้ทำงาน เที่ยวเตร่ไปวันๆ จึงเกิดความโมโห และไม่พอใจ จึงนำไฟแช็คจุดไฟเผาตู้เสื้อผ้าภายในบ้าน ก่อนที่จะลุกลามไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป