svasdssvasds

"แม่ทัพภาค4" จ่อฟ้องกลับ! โรงแรมภูเก็ตปล่อยคลิปทหาร-ชงย้าย 2 ตร.ติดตาม

"แม่ทัพภาค4" จ่อฟ้องกลับ! โรงแรมภูเก็ตปล่อยคลิปทหาร-ชงย้าย 2 ตร.ติดตาม

แม่ทัพภาคที่ 4 เตรียมการฟ้องร้องทางผู้บริหารโรงแรมภูเก็ต และบุคคลที่เผยแพร่คลิป ทำให้ทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่เสียหาย

วันนี้( 1 เม.ย.) พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4(มทภ.4) กล่าวถึงคลิปทหาร 3 นาย กำลังพูดคุยกับผู้บริหารโรงแรม และถูกแชร์ในโซเชียล อ้างว่าทหารใช้อำนาจไปรีดไถ และปรักปรำผู้บริหารโรงแรมเป็นผู้มีอิทธิพล ว่า การที่ทหารต้องไปพบเจ้าของโรงแรม เพราะได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม และได้ส่งเรื่องมายังกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) ของ พล.ร.5 จึงได้ส่งทหารไปตรวจสอบ และพูดคุย เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง

ทั้งนี้ ศูนย์ดำรงธรรมฯได้รับเรื่องร้องเรียนจากอดีตพนักงานโรงแรม ที่ขาดงานช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ และถูกไล่ออกอย่างไม่เป็นธรรม จึงไปร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ โดยศูนย์ดำรงธรรมฯได้แจ้งว่าในระเบียบของโรงแรมต้องให้กรรมการอย่างน้อย 2 คนลงชื่อ จึงไล่ออกได้ ดังนั้นจึงสามารถทำงานต่อได้ แต่เมื่อ พนักงานคนดังกล่าวเข้าไปทำงาน แต่ถูกผู้บริหารโรงแรมข่มขู่และใช้อิทธิพล และใช้ตำรวจบีบให้ออกจากงาน พนักงานโรงแรมคนนี้จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนมายัง บก.ควบคุม พล.ร.5 และ บก.ควบคุม พล.ร.5 ได้สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย กรมทหารราบที่25(ชป.รส.ร.25) เข้าดำเนินการตรวจสอบและรายงาน

ต่อมา ในวันที่ 27 มี.ค.61 ทหารชุด ชป.รส.ร.25 นำโดย ร.ต.วัฒนชัย คล่องประดิษฐ์ หน.ชุดฯ ได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งได้พบกับผู้บริหารโรงแรมคนดังกล่าว และได้แสดงตัว แจ้งให้ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบตามเรื่องร้องเรียน ซึ่งผู้บริหารโรงแรมคนดังกล่าวได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และรับทราบเรื่องดังกล่าว และได้เชิญ ชป.รส.เข้าไปนั่ง ในโรงแรมตามภาพที่ปรากฏในคลิป

ต่อมาได้มีหัวหน้า รปภ.เข้ามาพูดคุยด้วย เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น พ.ท.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม จึงได้เข้าไปที่โรงแรม และได้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการมาตรวจสอบครั้งนี้ และได้แจ้งกับผู้บริหารโรงแรมคนดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ว่า ชป.รส.ร.25 จะขอสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกร้องเรียน จึงให้ทั้ง3 คนมาให้ข้อมูลด้วย

แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวต่อว่า แต่ผู้บริหารโรงแรม คนดังกล่าว ได้แจ้งว่าตนเองไม่ว่าง ขอเข้ามาพบในวันที่ 2 เม.ย.61 และจะนำเอกสารต่างๆมายืนยันว่าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนไม่เป็นความจริง ซึ่งได้นั่งพูดคุยกันอีกประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ได้มีการตัดเอาภาพเฉพาะตอนที่ผู้บริหารโรงแรมพูดแสดงความไม่พอใจในช่วงแรกมาเผยแพร่ พร้อมข้อความที่ทำให้ฝ่ายทหารเสียหาย ทั้งๆที่ตลอดการพูดคุยหลังจากนั้นเป็นไปด้วยดี จึงทำให้สงสัยในเจตนาของบุคคลดังกล่าว จึงให้นายทหารพระธรรมนูญเตรียมการฟ้องร้องทางผู้บริหารโรงแรม และบุคคลที่เผยแพร่คลิปนี้ทั้งๆที่ทหารทำตามระเบียบถูกต้อง แต่งเครื่องแบบ และแสดงตัว พร้อมแจ้งข้อหา เรื่องร้องเรียน แต่กลับมากล่าวหาว่าทหารไปรีดไถ เรียกรับผลประโยชน์ ทำให้ฝ่ายทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่เสียหาย

ส่วนการที่ทหารต้องพกอาวุธปืนสั้นนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เป็นอาวุธปืนพกสั้นที่เป็นอาวุธประจำกาย ไม่ได้พกอาวุธสงคราม

แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวเพิ่มเติมว่า “กำลังทำเรื่องให้ต้นสังกัดตำรวจ 2 นายนี้ ที่มาติดตามดูแลผู้บริหารโรงแรมพิจารณาโยกย้าย เพราะตำรวจควรไปทำหน้าที่ของตำรวจ ไม่ควรมาเดินตาม ผู้บริหารโรงแรม คลิปที่ปรากฏในโซเชี่ยล รวมทั้งที่ทหารถ่ายมาเป็นหลักฐาน ตลอดเวลาการเข้าปฏิบัติหน้าที่ จะเห็นว่าฝ่ายทหาร นิ่ง สุขุม ทำตามระเบียบ ในการแต่งเครื่องแบบ แสดงตน ชัดเจน และแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อให้ชี้แจง เมื่อทำแบบนี้ เราก็คงต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย ในการดำเนินการ”

related