สพฉ.เปิด สายฉุกเฉิน 1669 พบ “อุบัติเหตุ” ยังครองแชมป์ทำแรงงานเจ็บป่วยฉุกเฉินมากสุด รองลงมาคือป่วย อ่อนเพลีย อัมพาตเรื้อรัง และ ปวดท้อง, หลัง, เชิงกราน วอนสถานประกอบการดูแลสวัสดิภาพแรงงานให้ปลอดภัยจากการทำงาน
วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปีได้ถูกกำหนดให้เป็นวันแรงงาน ที่ผ่านมาปัญหาเรื่องสุขภาพยังเป็นปัญหาหลักที่น่าเป็นห่วงสำหรับวัยแรงงาน ล่าสุด สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เผยสถิติเจ็บป่วยฉุกเฉินของวัยแรงงาน
นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย รองเลขาธิการสพฉ. ชี้แจงว่า ได้รวบรวมสถิติตัวเลขของการแจ้งเหตุผู้ป่วยฉุกเฉินผ่านสายฉุกเฉิน 1669 ของประชาชนอายุ 20 – 60 ปี ขึ้นไป ช่วง 1 พฤษภาคม 2561 – 30 เมษายน 2562 พบว่า มีการแจ้งเหตุในเรื่องอุบัติเหตุยานยนต์มากที่สุด โดยรับแจ้งเหตุในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง คือ 148,377 ครั้ง ส่วนผู้หญิง 80,163 ครั้ง
รองลงมาคือการได้รับแจ้งเหตุจาก อาการป่วย อ่อนเพลีย อัมพาตเรื้อรัง เพศชายมากกว่าเพศหญิงเช่นกัน คือ ชาย ได้รับแจ้ง 66,460 ครั้ง หญิงได้รับแจ้ง 56,835 ครั้ง
อันดับ 3 คืออาการปวดท้อง, หลัง, เชิงกราน ได้รับแจ้งเหตุในเพศชาย 42,301 ครั้ง และเพศหญิง 35,900 ครั้ง
“นอกจากสถิติ3 อันดับแรกที่น่าเป็นห่วง ยังมีสถิติแจ้งเหตุ การพลัดตกหกล้ม อุบัติเหตุ เจ็บปวด มากถึง 42,127 คน อยากฝากเตือนไปถึงสถานประกอบการให้ใส่ใจในการดูแลสวัสดิภาพของแรงงานในการทำงานให้มีความปลอดภัยได้มาตรฐานตามหลักสากลด้วย”
นพ.ไพโรจน์ กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งสถิติแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินเข้าที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกันคือ คืออาการหายใจลำบากติดขัด มากถึง 24,354 คน ซึ่งอาการหายใจลำบากติดขัดมักมีต้นเหตุมาจากการเจ็บป่วยฉุกเฉินในหลายๆ โรค แต่โรคที่น่าเป็นห่วงที่สุดของอาการหายลำบากติดขัดคือ โรคภาวะหัวใจขาดเลือด หรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (STEMI) ซึ่งภาวะของโรคหัวใจขาดเลือดคือโรคที่เกิดขึ้นเนื่องจากหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบหรือตัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจมีเลือดไปเลี้ยงลดลงหรือไม่มีเลย เป็นผลให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ หากรุนแรงทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายได้โดยอาการของผู้ป่วยนั้นจะมีอาการเจ็บแน่นจุกเสียดที่หน้าอกหรือท้องส่วนบนโดยเฉพาะในขณะออกแรงหรือมีอาการแน่นเหนื่อยอึดอัดบริเวณกลางหน้าอกหรือค่อนมาทางซ้ายและมีอาการเจ็บลึกๆหายใจไม่สะดวกรวมถึงอาจมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นการหอบเหนื่อยคลื่นไส้อาเจียนเหงื่อแตกใจสั่นหน้ามืดบางรายนอกจากแน่นหน้าอกแล้วยังอาจเจ็บร้าวไปที่หัวไหล่แขนหรือคอ
สำหรับสาเหตุที่ทำให้วัยแรงงานมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเกิดจากปัจจัยหลายอย่างได้แก่มีประวัติโรคหัวใจขาดเลือดของคนในครอบครัวแรงงานหลายท่านมีภาวะของความเครียดบางคนจึงสูบบุหรี่หนักซึ่งการสูบบุหรี่ในปริมาณที่มากในแต่ละวันจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดมากขึ้นด้วยนอกจากนี้แรงงานที่มีโรคประจำตัวเช่นโรคความดันโลหิตสูงไขมันในเลือดสูงโรคเบาหวานแรงงานที่มีภาวะอ้วนและไม่ค่อยได้ออกกำลังกายก็จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเพิ่มมากขึ้นด้วย