แชร์ต่อกันไม่จบไม่สิ้น จนเป็นความเชื่อผิดไปยกใหญ่ เมื่อมีการโพสต์และส่งต่อคำเตือนจาก "หมอนอกกะลา Santi Manadee" ว่าห้ามใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะมีสารออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิง จะทำให้ลูกสาวใจแตกก่อนวัย ลูกชายจะไม่เป็นชาย รวมทั้งมีสารเคมีอันตรายอื่นๆ อีกเยอะแยะเลย ....
ในฐานะ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธุ์ เป็นนักวิทยาศาสตร์ ต้องขอแรงบอกต่อกันถึงความรู้ที่ถูกต้องว่า “อย่าไปเชื่อ มั่วซิครับ น้ำยาปรับผ้านุ่มมีสารฮอร์โมนเพศหญิงซะที่ไหน สารอื่นๆ ที่ว่านั้น ก็ไม่ได้จะมีอันตรายอย่างนั้น ( ... ที่สำคัญ ตา "หมอนอกกะลา" เนี่ยไม่ใช่หมอจริงๆนะโพสต์อะไรมั่วๆประจำเลย
จากข้อมูล รศ.ดร.กาวี ศรีกูลกิจ ภาควิชาวัสดุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ แล้ว ได้คำตอบ
- น้ำยาปรับผ้านุ่มประกอบด้วยสารเคมี 2 ส่วนคือ ส่วนที่ทำให้ผ้านุ่ม ได้แก่ กรดไขมันที่ได้จากสัตว์ เมื่อสัมผัสผิวผ้าจะทำให้เกิดความนุ่ม ไม่แข็ง (ไม่ใช่ กรดน้ำมัน อย่างที่ไปแชร์กัน)
- และสารที่ให้กลิ่นหอม ติดทนนาน ซึ่งปัจจุบันใช้แค่สาร "เอทิลอะซีเตท-เบนซิลอะซีเตท" เพราะไม่เป็นอันตราย
- ส่วนสารอื่นๆ ที่แชร์ในคลิปได้แก่ "มัสไซลีน" เป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบกลิ่นจากกวาง ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว
-"คลอโรฟอร์ม-เบนซิลแอลกอฮอล์" ปัจจุบันก็ไม่ได้ใช้เช่นกัน หรือหากมีสารอันตรายอื่นๆ ก็จะถูกกำจัดระหว่างกระบวนการผลิต
ส่วน ศ.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ หัวหน้าหน่วยผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ อธิบายว่า
- น้ำยาปรับผ้านุ่มมีส่วนทำให้เกิดสารตกค้างในผ้า แต่มีปริมาณที่น้อยมาก การสวมใส่เสื้อผ้าบนผิวหนังจึงไม่มีสารที่ซึมเข้าสู่เลือดจนส่งผลต่อฮอร์โมน
- ยกเว้นคนที่มีอาการแพ้ เกิดผื่น หากเปลี่ยนยี่ห้อแล้วหาย
สรุปว่า น้ำยาปรับผ้านุ่ม นั้นไม่ได้อันตรายต่อการเอามาใช้หลังซักผ้าอย่างที่แชร์กันผิดๆ นะครับ
เป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ผิด ๆ