svasdssvasds

"บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล แมว 9 ชีวิต ผ่านมรสุมมาแล้วนับไม่ถ้วน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือ บิ๊กโจ๊ก เจ้าของฉายา “โจ๊กหวานเจี๊ยบ” ที่มาของฉายานี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่บิ๊กโจ๊ก เป็นคนที่รู้จักการพูดจา พูดจาดี เข้ากับผู้ใหญ่ง่าย รู้จักการเข้าหาอย่างถูกวิธี แต่กว่าบิ๊กโจ๊กจะมีตำแหน่งมาถึง รอง ผบ.ตร.ได้นั้น เขาผ่านมรสุมมาแล้วนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะถูกฟ้องว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน โดนตั้งกรรมการสอบ เด้งฟ้าผ่า ถูกยิงรถ หรือแม้กระทั้งถูกค้นบ้าน ซึ่งก็สามารถผ่านเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้มาได้ตลอด มรสุมแรกมาในปี 2552 บิ๊กโจ๊ก ยังติดยศ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และดำรงตำแหน่ง ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยในปีนั้น บิ๊กโจ๊กถูก นายเขตสยาม เนาวรังสี นักธุรกิจร้านอาหารใน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ร้องเรียนว่าเรียกรับผลประโยชน์ ถูก พล.ต.อ.วิเชียร ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง จนเกือบถูดให้ออกจากราชการ แต่สุดท้าย ก็ชนะทุกข้อกล่าวหา มรสุมลูกที่ 2 เกิดขึ้นในปี 2562  เรียกได้ว่าเป็นปีที่ถูก “ดอง” ปีนั้นมีคำสั่งฟ้าผ่าถึง 2 ครั้ง และปีนั้น บิ๊กโจ๊ก อยู่ในชั้นยศ พล.ต.ท.โดยคำสั่งฟ้าผ่าแรกเกิดขึ้นในวันที่ 5 เม.ย.62 จาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ในขณะนั้น สั่งให้ บิ๊กโจ๊ก ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นที่รู้กันว่าการถูกคำสั่งให้ย้ายแบบนี้ในวงการสีกากี คือการดอง  หลังจากนั้นเพียง 4 วัน คือวันที่ 9 เม.ย. 62 มีคำสั่งฟ้าผ่าจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ให้บิ๊กโจ๊กขาดจากตำแหน่งหน้ที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโอนไปทำหน้าที่ข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทนักบริหารระดับสูง ในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สังกัดปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และถูกเพิ่มรายชื่อในบัญชี เพื่อให้ ป.ป.ช. และ สำนักงานการตรวจสอบเงินแผ่นดินจากการถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริต  

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือ บิ๊กโจ๊ก เจ้าของฉายา “โจ๊กหวานเจี๊ยบ” ที่มาของฉายานี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่บิ๊กโจ๊ก เป็นคนที่รู้จักการพูดจา พูดจาดี เข้ากับผู้ใหญ่ง่าย รู้จักการเข้าหาอย่างถูกวิธี แต่กว่าบิ๊กโจ๊กจะมีตำแหน่งมาถึง รอง ผบ.ตร.ได้นั้น เขาผ่านมรสุมมาแล้วนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะถูกฟ้องว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน โดนตั้งกรรมการสอบ เด้งฟ้าผ่า ถูกยิงรถ หรือแม้กระทั้งถูกค้นบ้าน ซึ่งก็สามารถผ่านเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้มาได้ตลอด

มรสุมแรกมาในปี 2552

บิ๊กโจ๊ก ยังติดยศ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และดำรงตำแหน่ง ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยในปีนั้น บิ๊กโจ๊กถูก นายเขตสยาม เนาวรังสี นักธุรกิจร้านอาหารใน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ร้องเรียนว่าเรียกรับผลประโยชน์ ถูก พล.ต.อ.วิเชียร ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง จนเกือบถูดให้ออกจากราชการ แต่สุดท้าย ก็ชนะทุกข้อกล่าวหา

มรสุมลูกที่ 2 เกิดขึ้นในปี 2562  เรียกได้ว่าเป็นปีที่ถูก “ดอง”

ปีนั้นมีคำสั่งฟ้าผ่าถึง 2 ครั้ง และปีนั้น บิ๊กโจ๊ก อยู่ในชั้นยศ พล.ต.ท.โดยคำสั่งฟ้าผ่าแรกเกิดขึ้นในวันที่ 5 เม.ย.62 จาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ในขณะนั้น สั่งให้ บิ๊กโจ๊ก ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นที่รู้กันว่าการถูกคำสั่งให้ย้ายแบบนี้ในวงการสีกากี คือการดอง 

หลังจากนั้นเพียง 4 วัน คือวันที่ 9 เม.ย. 62 มีคำสั่งฟ้าผ่าจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ให้บิ๊กโจ๊กขาดจากตำแหน่งหน้ที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโอนไปทำหน้าที่ข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทนักบริหารระดับสูง ในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สังกัดปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และถูกเพิ่มรายชื่อในบัญชี เพื่อให้ ป.ป.ช. และ สำนักงานการตรวจสอบเงินแผ่นดินจากการถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริต