svasdssvasds

ซีไอเอเผยจีนอยากเป็นมหาอำนาจโลกแทนที่สหรัฐฯ

ซีไอเอเผยจีนอยากเป็นมหาอำนาจโลกแทนที่สหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของซีไอเอประจำเอเชียเผยว่า จีนกำลังทำสงครามเย็นกับสหรัฐฯและมีเป้าหมายอยากเป็นผู้นำโลกแทนที่สหรัฐฯ

หนังสือพิมพ์เดอะ เจแปน ไทมส์ สื่อของญี่ปุ่นรายงานว่า ไมเคิล คอลลินส์ รองผู้อำนวยการศูนย์ภารกิจเอเชียตะวันออกของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯหรือซีไอเอ กล่าวถึงการขยายอิทธิพลของจีน ในการประชุม แอสเพน ซิเคียวริตี้ ฟอรัม ที่สหรัฐฯ โดยเขาระบุว่า ความเป็นผู้นำของจีนนั้นได้มีการขยายเป้าหมาย ผลประโยชน์ และกิจกรรมต่างๆไปทั่วโลก เพื่อแข่งกับสหรัฐฯ

คอลลินส์ระบุว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน เป็นผู้ผลักดันและกำกับการโค่นสหรัฐฯโดยใช้วิธีการแบบสงครามเย็น

คอลลินส์ขยายความว่า จีนกำลังทำสงครามเย็นต้านสหรัฐฯ แต่ไม่ใช่สงครามเย็นแบบที่เคยเกิดขึ้นในยุคสงครามเย็น แต่เป็นสงครามเย็นในความหมายที่ประเทศหนึ่งใช้อำนาจทั้งในกฎหมายและนอกกฎหมาย ทั้งในที่สาธารณะและในที่ลับ ทั้งทางเศรษฐกิจและการทหาร เพื่อกัดกร่อนขู่แข่งโดยไม่จำเป็นต้องมีความขัดแย้ง เพราะจีนไม่ต้องการความขัดแย้ง สิ่งที่จีนต้องการในท้ายที่สุดคือ ทุกประเทศ เมื่อต้องตัดสินอะไรในเชิงนโยบาย ประเทศเหล่านั้นจะเลือกจีนก่อน ไม่ใช่สหรัฐฯ

สุนทรพจน์ของคอลลินส์สอดคล้องกับของนายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ ซึ่งขึ้นพูดในเวทีเดียวกันก่อนหน้านี้ เขาระบุว่า จีนคือภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด ท้าทายที่สุด และสำคัญที่สุดที่สหรัฐฯเคยเผชิญมา

ทั้งนี้ ในรายงานยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศของสหรัฐฯที่เปิดเผยออกมาในช่วงต้นปี ระบุว่า สหรัฐฯนั้นต้องระมัดระวังการกลับมาของยุคความขัดแย้งของเหล่าชาติยักษ์ใหญ่ เช่นจีนและรัสเซีย

รายงานยังระบุว่า จีนกำลังยกระดับกองทัพให้ทันสมัย และขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อจัดระเบียบภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกใหม่ให้จีนได้ประโยชน์

ยวน เกรแฮม ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระบุกับหนังสือพิมพ์เดอะ เจแปน ไทมส์ว่า คำเตือนของนายคอลลินส์ไม่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด แต่ที่น่าสังเกตคือ มีการยกระดับการแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯมาสู่ระดับโลก จากเดิมที่สหรัฐฯฯมองจีนเพียงคู่แข่งในระดับภูมิภาค หมายความว่า แม้ว่าสหรัฐฯกำลังวุ่นกับเรื่องของรัสเซีย แต่ในสายตาของเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทั้งหลาย จีนนั้นคือคู่แข่งทางยุทธศาสตร์ตัวจริงนั่นเอง

 

related