svasdssvasds

ตำรวจไม่ปล่อยรอดสายตา รวบเครือข่ายยาเสพติดจากภาคเหนือ พร้อมของกลาง 14.8 ล้านเม็ด

ตำรวจไม่ปล่อยรอดสายตา รวบเครือข่ายยาเสพติดจากภาคเหนือ พร้อมของกลาง 14.8 ล้านเม็ด

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับ 3 ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาเสพติด ระหว่างกำลังลำเลียงไปส่งให้กับลูกค้าในภาคใต้ พร้อมยึดของกลาง 14.8 ล้านเม็ด

ยาบ้า ชนิดเม็ดกลมแบนสีส้มและมีสีเขียวปะปนเล็กน้อยมีอักษร WY ประทับอยู่ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเรียบ บรรจุอยู่ในซองพลาสติกสีฟ้าและสีแดงปะปนกัน รวมยาบ้า 7,400 เม็ด หรือจำนวน 14,800,000 เม็ด รถบรรทุกไม่ประจำทาง แบบลากจูง มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ยี่ห้อ วอลโว่ 1 คัน รถบรรทุกไม่ประจำทาง แบบกึ่งพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 1 คัน ซึ่งใช้เป็นยานพาหนะในการลำเลียงและซุกซ่อนยาเสพติดของกลาง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อวิโว่ และของกลางอื่นๆ อีก 8 รายการ รวมมูลค่า 1,482,310,000 บาท คือของกลางที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยึดได้จากกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ บริเวณริมถนนสายเอเชียอ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา ระหว่างกำลังลำเลียงยาเสพติดดังกล่าวลงไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาค ใต้

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่แถบภาคเหนือ มีพฤติการณ์ร่วมกันลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงราย มาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มนายทุนยาเสพติดชาวลาว ซึ่งใช้วิธีการลำเลียงทางรถบรรทุกขนาดใหญ่ โดยการซุกซ่อนปะปนมากับสินค้าซึ่งเป็นพืชผลทางการเกษตรอยู่เป็นประจำ

ดยนักค้ากลุ่มนี้ได้ ซื้อที่ดินและสร้างโกดังไว้ในพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย สำหรับใช้เป็นจุดเก็บพักยาเสพติดที่ได้เตรียมลำเลียงเข้ามายังพื้นที่ตอนในของประเทศเพื่อมาเก็บไว้ที่โกดังอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และเตรียมกระจาย สู่ผู้ค้ารายใหญ่และผู้ค้ารายย่อย จึงดำเนินการสืบสวนติดตามพฤติการณ์ของกลุ่มดังกล่าวตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 เป็นต้นมา

จนกระทั่งวันที่ 16 ส.ค. เวลา 08.00 น. ตำรวจชุดปฏิบัติการสังเกตเห็นรถบรรทุกขับเข้าไปยังโกดังอ.เทิง จ.เชียงราย ก่อนจะขับรถบรรทุกออกมามุ่งหน้าไปทางถนนสายเอเชีย (32) ตำรวจจึงแบ่งกำลังขับรถยนต์ติดตามไปห่างๆ พบว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวขับไปจอดที่ริมถนนหน้าห้างโลตัส สาขาบางปะอิน ก่อนที่นายจิรภัทรจะลงจากรถบรรทุก แล้วนั่งโดยสารรถจยย.รับจ้างมุ่งหน้ากลับไปทางโกดังจุดเกิดเหตุ ส่วนนายพลวัตรและนายเสกสิทธิ์ได้ขึ้นไปขับรถบรรทุก แล้วมุ่งหน้าเดินทางขึ้นภาคเหนือ ชุดปฏิบัติการจึงได้แบ่งกำลังออกติดตาม ในเส้นทาง จ.นครสวรรค์ – จ.กำแพงเพชร – จ.ตาก กระทั่งเวลา 23.30 น. รถบรรทุกได้จอดพักที่บริเวณริมถนนพหลโยธิน อ.บ้านตาก จ.ตาก

ตำรวจไม่ปล่อยรอดสายตา รวบเครือข่ายยาเสพติดจากภาคเหนือ พร้อมของกลาง 14.8 ล้านเม็ด

ต่อมาวันที่ 17 ส.ค. เวลา 06.30 น. นายพลวัตรได้ขับรถบรรทุกต่อโดยมีนายเสกสิทธิ์ นั่งโดยสารไปด้วยเช่นเดิม โดยใช้เส้นทาง จ.ตาก – จ.ลำปาง – จ.พะเยา และมุ่งหน้าไปยัง อ.เทิง จ.เชียงราย เพื่อไปยังโกดังไม่ทราบเลขที่ ต.สันทรายงาม อ.เทิง จ.เชียงราย จากนั้นเวลา 18.00 น. รถบรรทุกคันเดิมได้ขับออกมาจากโกดัง และใช้เส้นทาง อ.เทิง – อ.เมืองเชียงราย – อ.แม่ใจ – อ.เมืองพะเยา ใช้ถนนพหลโยธิน (ขาล่อง) เส้นทาง อ.เมืองพะเยา – อ.งาว – อ.ร้องกวาง – อ.เด่นชัย ต่อจนถึง จ.อุตรดิตถ์ - จ.พิษณุโลก – จ.พิจิตร – จ.นครสวรรค์ – จ.สิงห์บุรี แล้วมุ่งหน้า จ.พระนครศรีอยุธยา จนกระทั่งรถบรรทุกคันดังกล่าวมาจอดที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย (32) หลัก กม.ที่ 2 (ขาล่อง) อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายจิรภัทรได้เดินเข้ามาหาและเจรจากับนายพลวัตร และนายเสกสิทธิ์ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอตรวจสอบและตรวจค้นรถบรรทุกคันดังกล่าว ผลการตรวจค้นตัวและสัมภาระไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่พบของกลางยาเสพติดดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ภายในรถบรรทุก

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจริง โดยมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในรถบรรทุกตลอด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพงส.บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะขยายผลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินบุคคลในเครือข่ายและบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป

related