กองปราบจับทีมฆ่าตัดคอฝังดินเหยื่อกาญจนบุรี

พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.จรูญเกรียติ ปานแก้ว รองผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ุม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป พ.ต.ต.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่กก.5บก.ป. เข้าจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายภูผาทอง หรือใหญ่ ผาทองภูมิ อายุ 36 ปี อดีตพระสงฆ์วัดแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี , นายโซนี อายุ 25 ปี สัญชาติพม่า , นายนิวอ่อง หรือโอม อายุ อายุ 36 ปี สัญชาติพม่า , นายณัฐพล หรือกลอ์ฟ วิวัฏฏ์กุลธร อายุ 27 ปี ชาวจ.นครปฐม , นายมนตรี หรือ อิม สูนคำ อายุ 22 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ในข้อหา"ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" , "ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ" , "ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ้อนเร้น ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด"

คดีนี้ตำรวจกองปราบตามจับนายภูผาทอง ได้ที่แพกลางแม่น้ำแคว , นายโซนี จับได้ที่กระท่อม ต.ห้วยเขยง , ใน อ.ทองผาภูมิ , นายนิวอ่อง จับได้บ้านพักใน ต.อีต๋อง ทั้งหมดเป็นพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ส่วนนายณัฐพล และ นายมนตรี จับได้ที่บ้านพักใน จ.นครปฐม และกาญจนบุรีตามลำดับ

พ.ต.อ.ภูมินทร์ เปิดเผยว่า การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวสืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจาก นายภิเษก สัจธรรมภิวัตน์ อายุ 21 บุตรชายของนายนวพงศ์ สัจธรรมภิวัตน์ อายุ 56 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ผู้ตายว่า เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมปี 2558 บิดาได้หายไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกนายใหญ่ซึ่งเป็นคนงานในไร่ของบิดาและพวก วางแผนสังหารเพื่อเอาทรัพย์สิน โดยมีนายใหญ่เป็นผู้บงการเรื่องทั้งหมด นอกจากนี้ก่อนการหายตัวไปของบิดาทราบว่านายใหญ่ได้เข้ามาอยู่ที่ไร่ของบิดาใน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่ปี 2555 หลังจากสึกจากการบวชเป็นพระลูกวัดพวงมะเดื่อ ต่อมาให้หลังประมาณ 1 ปี นายใหญ่มีพฤติกรรมแอบเป็นชู้กับมารดาตน

พ.ต.อ.ภูมินทร์ กล่าวอีกว่า ในขณะที่นายใหญ่อยู่ที่ไร่ของผู้ตาย ได้พยายามใส่ร้ายผู้ตายให้กับนางเอียดและลูกทั้ง 3 คน ว่าผู้ตายมีพฤติกรรมเล่นมนต์ดำไสยศาสตร์กับครอบครัว จนทำให้เกิดอาการป่วยต่าง ๆ อีกทั้งยังอ้างว่าตนเองสามารถช่วยแก้ไขมนต์ดำได้ จึงทำให้นางเอียดและลูกเชื่อ จนกระทั้งต่อมานายใหญ่ได้มีการวางแผนที่จะฆ่าผู้ตายเพื่อจะยึดสมบัติและภรรยาผู้ตายของตน

พ.ต.อ.ภูมินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการสังหารครั้งนี้เริ่มจากนายใหญ่ได้ติดต่อลูกน้องคนสนิทคือนายโซนี ให้ช่วยไปสั่งการโดยการใช้ไม้และมีดเป็นอาวุธ ซึ่งก่อนจะถึงเวลาลงมือนายโซนีได้พานายโอม , นายอิม , นายกอล์ฟ เพื่อนที่รู้จักกันมาช่วยในการสังหาร โดยให้นายโซนีและนายโอม ขับรถจักรยานยนต์พร้อมด้วยอาวุธ ไปหาผู้ตายที่บ้านในวังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยนายโซนีเข้าไปทำทีเข้าไปขอข้าวกิน ส่วนนายโอมรออยู่ด้านนอก จากนั้นนายใหญ่ใช้จังหวะที่ผู้ตายเผลอใช้ไม้ที่เตรียมมากระหน่ำตีที่ไปที่ศีรษะจนล้มลงและใช้มีดแทงอีก 3 ครั้ง จนตายคาบ้านพัก ส่วนนายโอมเข้ามาตีซ้ำหลังจากผู้ตายถูกแทงไปแล้ว

“หลังจากนายโซนีและนายโอมฆ่าผู้ตายแล้ว นายโอมได้ขับรถกระบะของผู้ตายไปรับผู้ร่วมขบวนการประกอบด้วย นายอิม นายกอล์ฟมาที่บ้านเกิดเหตุเพื่อช่วยกันยกศพไปเผาทำลายที่กลางป่าไร่มันห่างจากที่เกิดเหตุ 10 กิโลเมตร โดยนำที่นอนของผู้ตายและยางรถยนต์ 1 เส้น ไปเป็นเชื้อเพลิง ทั้งนี้ในระหว่างการเผาทำลายศพเชื้อเพลิงหมดจึงทำให้ศพไหม้ไม่หมด ทั้งหมดจึงตัดสินใจช่วยกันขุดหลุมเพื่อฝังอำพราง และนายโซนียังใช้จอบที่ขุดศพตัดหัวของผู้ตายก่อนที่จะฝังด้วย" พ.ต.อ.ภูมินทร์ กล่าว

พ.ต.อ.ภูมินทร์ กล่าวอีกด้วยว่า หลังจากผ่านไป 3 วัน หลังฝังศพผู้ตาย นายโซนีได้กลับมาขุดเอาศีรษะของผู้ตายไปเผาและนำกระดูกไปลอยน้ำเนื่องจากสำนึกผิด ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้งหมดจะแยกย้ายกันหลบหนี ส่วนประเด็นในการสังหารครั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่าผู้ตายมีทรัพย์สินเป็นที่ดินหลายแปลงและนำไปขายได้เงินมากว่า 10 ล้านบาท โดยผู้ตายนำเงินไปใช้หนี้สินจำนวน 5.8 ล้านบาท ส่วนเงินที่เหลือได้ไปซื้อที้ดินไว้ 2 แปลง เพื่อทำไร่และกิจการบ้านพักใน จ.กาญจนบุรี ซึ่งในจุดนี้คาดว่าเป็นปมในการสังหารเพื่อเอาทรัพย์ ประกอบกับนายใหญ่ต้องการคบกับภรรยาผู้ตายอย่างเปิดเผย

สอบสวน นายใหญ่ ให้การรับสารภาพ ว่าได้สั่งให้ลูกน้องคนสนิทไปลงมือฆ่าผู้ตาย มีการเตรียมการมากว่า 1 เดือน เนื่องจากถูกผู้ตายทำมนต์ดำไสยศาสตร์ใส่ และยังมีเรื่องทะเลาะกับผู้ตายเนื่องจากถูกจับได้ว่าเป็นชู้กับภรรยาผู้ตาย แต่ไม่เคยหวังในทรัพย์สินสมบัติแต่อย่างใด ด้านนายโซนี ให้การว่า ตนเองนับถือผู้ตายเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นคนดี แต่มาถูกนายใหญ่พูดเป่าหูจนเชื่อว่าผู้ตายเป็นคนเล่นของทำมนต์ดำใส่ครอบครัวเปลี่ยนเป็นคนไม่ดี ตนเองหลงเชื่อจึงรับงานเป็นมือสังหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาประกอบด้วย นายใหญ่ นายโอม นายโซนี มาขุดหาศพที่กลางไร่มันบนเขา โดยมี พ.ต.อ.จรูญเกรียติ ปานแก้ว รองผบก.ป. ร่วมในการขุดศพครั้งนี้ โดยมีการประสานรถแบคโฮ 1 คัน สนับสนุนในการขุด ซึ่งระหว่างการขุดนั้นมีสายฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 9 ชม. ในการค้นหาศพที่คาดว่าถูกฝั่งไว้ในไร่มันดังกล่าวตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหา โดยช่วงเช้าวันนี้จะมีการขุดหาพยานหลักฐานต่อ และจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในช่วงบ่ายวันนี้ด้วย