ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
นักดูนกตามธรรมชาติต่างทยอยลงพื้นที่ริมบึงบอระเพ็ดบริเวณบ้านวังมหากร อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเฝ้าดูฝูงนกเหยี่ยวดำจำนวนหลายร้อยตัวที่เกาะตามกิ่งไม้และบินโฉบหาอาหารกันอย่างต่อเนื่อง โดยฝูงเหยี่ยวดังกล่าวจะมีพฤติกรรมค่อนข้างเชื่องและไม่ค่อยกลัวคน จนนักดูนกสามารถเข้าใกล้ในระยะไม่ถึง 100 เมตร ชาวนาในพื้นที่บอกว่าฝูงเหยี่ยวดังกล่าวนั้นเข้ามาอยู่ในพื้นที่เมื่อ 5 วันที่ผ่านมา โดยจะจับกลุ่มกันเป็นฝูงและออกล่าเหยื่อโดยจับหนูนาตัวเล็กๆ ตามผืนนาที่ชาวนาสูบน้ำใส่กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าปีนี้ในพื้นที่คงเป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ประกอบกับมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่อย่างบึงบอระเพ็ดจึงทำให้ฝูงเหยี่ยวดำเข้ามาหากินในพื้นที่เป็นครั้งแรก
สำหรับเหยี่ยวดำ (อังกฤษ: Black kite, Pariah kite ; ชื่อวิทยาศาสตร์: Milvus migrans) เป็นเหยี่ยวชนิดหนึ่งจัดเป็นนกขนาดกลาง ขนาดลำตัวยาวประมาณ 60-66 เซนติเมตร ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะเหมือนกันคือ ลำตัวสีน้ำตาลเข้มอมเหลืองทั้งด้านบนและด้านล่าง ปีกสีน้ำตาลเข้ม หางเป็นแฉกตื้น ๆ มองดูคล้ายง่าม ปากสั้นสีดำแหลมคม ปลายปากเป็นขอ หัวค่อนข้างใหญ่ คอสั้น ปีกยาว ส่วนนกที่ยังไม่โตเต็มที่ ลำตัวจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน พร้อมกับมีขีดสีเหลืองอ่อนทั่วทั้งตัว พบกระจายพันธุ์อยู่กว้างขวางในหลายพื้นที่ ตั้งแต่ยูเรเชีย, ออสตราเลเชีย และโอเชียเนีย จึงทำให้มีชนิดย่อยหลากหลายถึง 5 ชนิด และเป็นนกอพยพในหลายพื้นที่ในช่วงฤดูหนาว ในประเทศไทยพบได้ในป่าทางภาคเหนือ, ภาคกลางและภาคใต้ มีพฤติกรรมหากินในเวลากลางวัน ชอบบินอยู่ตามที่โล่งชายป่า ตามริมฝั่งทะเล หรือตามแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ เพื่อหาอาหาร เมื่อจับเหยื่อได้ก็มักกินบนพื้นดิน หรืออาจนำไปกินบนต้นไม้ พบอยู่โดดเดี่ยว เป็นคู่หรือเป็นฝูง เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ เหยี่ยวดำจะทำรังรวมกันเป็นกลุ่มบนต้นไม้สูง ทั้งตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันสร้างรังด้วยกิ่งไม้เล็ก ๆ นำมาขัดสานกัน จากนั้นทั้งคู่จะช่วยกันกกไข่และเลี้ยงลูกอ่อน นกจะใช้เวลากกไข่นานประมาณ 29-32 วัน ออกไข่ครั้งละ 2-4 ฟอง ปกติ 3 ฟอง และยังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 อีกด้วย