svasdssvasds

อย่าทำ! ชาวเน็ตทดลอง ใช้สายไฟ-ท่อแอร์ หลอกระบบช่วยขับขี่ คุมเลนให้รถขับเอง

อย่าทำ! ชาวเน็ตทดลอง ใช้สายไฟ-ท่อแอร์ หลอกระบบช่วยขับขี่ คุมเลนให้รถขับเอง

อย่าหาทำเด็ดขาด! ชาวเน็ตทดลอง ใช้สายไฟ-ท่อแอร์ หลอกระบบช่วยขับขี่ ที่บังคับให้คุณจับพวงมาลัยรถยนต์อยู่เสมอได้ ปล่อยให้รถคุมเลน-ขับเอง

เพจเฟซบุ๊ก อวย [ยี่ห้อรถยนต์] โพสต์ภาพพร้อมรูป ระบุว่า "อยู่ห่างๆพวกนี้ไว้เลยนะ" โดยเป็นภาพของผู้ใช้รถยนต์สัญชาติจีน 2 ราย ทดลองนำ ท่อแอร์และสายไฟเส้นใหญ่มาม้วนเข้ากับพวงมาลัยของรถยนต์ พร้อมระบุเชิงว่า ระบบ Adaptive Cruise Control ไม่ร้องเลย ทำให้ผู้คนต่างเข้าไปแสดงความกังวลอย่างมากถึงความปลอดภัยบนท้องถนน

รถยนต์ไฟฟ้าจีน ค่ายดังกล่าว มีระบบช่วยให้ผู้ขับขี่อยู่ในเลนและระบบควบคุมรถให้วิ่งตามรถยนต์คันข้างหน้าด้วยความเร็วและระยะห่างที่สม่ำเสมอ ชื่อ Adaptive Cruise Control ซึ่งระบบนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่ลดความตึงเครียดและเหนื่อยล้าจากการขับขี่ได้ระดับหนึ่ง แต่ด้วยข้อกฎหมายปัจจุบันทำให้ผู้พัฒนารถยนต์บังคับให้ผู้ขับขี่ต้องจับพวงมาลัยอยู่ตลอดระยะเวลาขับขี่เพื่อความปลอดภัย

ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ใช้ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม นำท่อแอร์และสายไฟเส้นใหญ่มาม้วนเข้ากับพวงมาลัยของรถยนต์ แล้วเปิดระบบช่วยขับขี่ Adaptive Cruise Control มาทดลองบนถนนจริงด้วยความเร็วสูง ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่อันตรายอย่างยิ่งทั้งผู้ขับขี่และผู้ร่วมทางที่อยู่รอบข้าง

เมื่อย้อนกลับไปในช่วงของการพัฒนาระบบช่วยขับขี่ ไม่น่าจะมีผู้พัฒนารายใดคำนึงถึงช่องโหว่ของคนขับที่ไม่เหมาะสม ด้วยการนำท่อแอร์และสายไฟเส้นใหญ่มาม้วนเข้ากับพวงมาลัยของรถยนต์ เพื่อหลอกระบบช่วยขับขี่ เพราะส่วนใหญ๋ระบบ Adaptive Cruise Control จะถูกใช้บนทางด่วนและทางหลวงที่รถใช้ความเร็วสูง

อย่าทำ! ชาวเน็ตทดลอง ใช้สายไฟ-ท่อแอร์ หลอกระบบช่วยขับขี่ คุมเลนให้รถขับเอง

อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้าจีน ยี่ห้อดังกล่าว มีระบบอื่น ๆ ที่ยังคอยเช็กและตรวจสอบผู้ขับขี่ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจจับสายตาของผู้ขับขี่ว่าจดจ่ออยู่กับเส้นทางข้างหน้าหรือไม่ เพราะหากผู้ขับละสายตาจากเส้นทางนานหรือถี่เกินไป เช่น เล่นโทรศัพท์มือถือ เล่นจอสัมผัสของรถ หรือหลับ ก็จะเตือนผู้ขับทันที 

ขณะเดียวกัน ยังไม่มีรายงานว่ารถยนต์ค่ายอื่น ๆ ที่มีระบบ Adaptive Cruise Control มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยจากพฤติกรรมที่ไม่สมเหตุสมผลของคนขับรถที่นำท่อแอร์และสายไฟไปหลอกระบบช่วยขับขี่แล้วทำให้ระบบความปลอดภัยทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพจนเกิดช่องโหว่แบบนี้

 

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

related