svasdssvasds

เมื่อเกิดแผ่นดินไหว เราต้องดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างไร ให้ปลอดภัยไร้อันตราย!

เมื่อเกิดแผ่นดินไหว เราต้องดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างไร ให้ปลอดภัยไร้อันตราย!

เปิดวิธีดูแลสัตว์เลี้ยงยามเกิดภัยแผ่นดินไหว มนุษย์ในฐานะเจ้าของควรต้องรับมืออย่างไร มีการเตรียมตัวทั้ง 3 ระดับ ก่อนเกิด ระหว่างเกิด และหลังเกิดแผ่นดินไหว มีวิธีปฏิบัติอย่างไรบ้าง ติดตามได้ที่บทความนี้

ถือเป็นข่าวร้ายรับต้นปีกันเลยทีเดียว จากกรณีที่แดนอาทิตย์อุทัย เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งตอนนี้ รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดคือ 4 ราย และยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ติดอยู่ในซาก พร้อมทั้งยังเกิด Aftershock ที่เดินหน้าสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง

แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น Cr. Reuters

แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น Cr. Reuters

ถึงกระนั้น ขนาดมนุษย์ยังแทบเอาชีวิตไม่รอด แล้วสัตว์เลี้ยงจะเป็นอย่างไรบ้าง ในสถานการณ์ภัยพิบัติเช่นนี้ ย้อนกลับไปในปี 2023 หากใครจำกันได้ ที่ประเทศตุรกีเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูด

ในครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นราย แต่อีกหนึ่งประเด็นที่สื่อต่างประเทศพร้อมใจกันรายงานคือ สัตว์จำพวก สุนัข แมว กระต่าย นก หรือแม้กระทั่งวัว ติดอยู่ในซากเมืองที่ถล่มลงจำนวนนับไม่ถ้วน

ทำให้การช่วยเหลือถูกแบ่งกำลังไปเพื่อช่วยสัตว์เลี้ยงด้วย the hindu รายงานว่า มีสัตว์ที่ว่าไปด้านบนเกือบหนึ่งพันตัว ที่ได้รับการช่วยเหลือจากทั้งเจ้าหน้าที่เอง และอาสาสมัคร ที่ตบเท้ากันมากู้ชีพสัตว์เลี้ยงเหล่านี้

ขนาดมนุษย์ยังแทบเอาชีวิตไม่รอด แล้วสัตว์เลี้ยงจะเป็นอย่างไรบ้าง ในสถานการณ์ภัยพิบัติ Cr. Reuters

เป็นเรื่องที่น่าคุยกันต่อว่า “สัตว์เลี้ยง” ซึ่งมีบทบาทแตกต่างกันตามแต่ละท้องที่ มีความปลอดภัยในชีวิตช่วงเกิดภัยพิบัติมากน้อยแค่ไหน ในฐานะเจ้าของผู้รักสัตว์เลี้ยงประหนึ่งคนในครอบครัว เราพอจะมีวิธีรับมือ ปกป้อง เยียวยา สัตว์เลี้ยงของเราในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวอย่างไรได้บ้าง ติดตามได้ที่บทความนี้

ยังไม่เกิดแผ่นดินไหว

คนไทยมีความเชื่อว่า หากไม่อยากให้สิ่งใดเกิดขึ้น เราก็ไม่ควรไปเตรียมตัวรับมือ หรือพูดถึงสิ่งนั้น แต่กับกรณีรับมือกับภัยพิบัติไม่เหมือนกัน

การทำ Action Plans รอไว้ก่อน จะช่วยเราได้มากเมื่อภัยพิบัติมาเยือน เพราะอย่าลืมว่า ภัยพิบัติไม่ได้มาเคาะประตูขอเข้าบ้านเราแบบสงบเสงี่ยม แต่ถล่มบ้านเราไม่เหลือซาก ดังเช่นสถานการณ์ที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

ทั้งนี้ Keep The World หลังจากที่ได้รวบรวมมาจากหลากหลายแหล่ง เราขอแนะนำไว้เป็นข้อ ๆ ดังนี้

To do list (ปฏิบัติตามนี้ทันทีเมื่อเกิดภัยพิบัติ)

สำหรับใครก็ตามที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากภัยพิบัติ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป แต่สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในโซนสีแดง ไม่ว่าจะในประเทศไทย หรือต่างประเทศก็ตาม ควรเตรียมแผนเอาไว้ถึงสถานการณ์นี้ให้ละเอียด

ตั้งต้นด้วยความปลอดภัยของสมาชิกทุกคนในบ้าน สัตว์เลี้ยง มีกี่ตัว เราต้องคิดคำนึกถึงความปลอดภัยให้หมดทุกเหลี่ยมมุม ทางที่ดีควรหาเวลาว่างศึกษาวิธีเอาตัวรอดจากการภัยพิบัติเอาไว้สักหน่อย เพื่อเป็นผลดีต่อทั้งตัวเอง คนอื่น ๆ รวมถึงสัตว์เลี้ยงด้วย

กำหนดพื้นที่ปลอดภัยให้กับสมาชิกในบ้าน และสัตว์เลี้ยง Cr. Reuters

  • กำหนดพื้นที่ปลอดภัยให้กับสมาชิกในบ้าน และสัตว์เลี้ยง

เข้าใจดีว่าเมื่อเกิดภัยพิบัติสติสตางค์ก็แทบจะไม่เหลือแล้ว จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการหาจุดที่ปลอดภัยที่สุด แล้วบอกกับทุกคนในครอบครัวให้ทราบร่วมกัน จะเป็นในบ้าน หรือสถานที่ปลอดภัยในเมืองก็ย่อมได้

เมื่อเกิดภัยพิบัติทุกคนจะได้เข้าใจตรงกัน พร้อมจับพาสมาชิกทุกคนเอาตัวรอดจากสถานการณ์เลวร้ายนี้ไปด้วยกัน และจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

  • ตัดสินใจส่งสัตว์เลี้ยงไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด (จะดูแลเองหรือให้หน่วยงานช่วยดูแลระหว่างเกิดภัยพิบัติก็ย่อมได้)
  • มีอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในยามฉุกเฉินติดบ้านเอาไว้ สำหรับสัตว์ อาทิ ผ้าห่ม อาหาร หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดต่าง ๆ

อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยง ยามเกิดภัยพิบัติ

การมีอุปกรณ์สำรองเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เชื่อเถอะว่า สามารถแบ่งเบาภาระเราในฐานะเจ้าของสัตว์เลี้ยงไปได้มากโข

ควรเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือสุนัขให้พร้อมกับภัยพิบัติอยู่เสมอ Cr. Rock N Rescue

สิ่งของที่ควรเตรียมเอาไว้ติดบ้าน จากข้อมูลของ (wagwalking) ระบุไว้หลากหลายข้อ ดังนี้

  • สายจูง ปลอกคอแสดงถึงเจ้าของ
  • อุปกรณ์ปฐมพยาบาลสัตว์เลี้ยง
  • ผ้าห่ม
  • ยาเบื้องต้นสำหรับสัตว์เลี้ยง
  • สำเนาการฉีดวัคซีน เอกสารการรับเลี้ยง
  • รูปภาพสัตว์เลี้ยง (ในกรณีสัตว์เลี้ยงหาย)
  • อุปกรณ์ทำความสะอาด
  • อาหาร ขนม
  • จานและชามสำหรับกินอาหาร
  • ถังขยะแบบใช้แล้วทิ้ง

ทั้งนี้ ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงการเตรียมตัวถึงสถานการณ์ที่ยังไม่เกิด แต่เราเตรียมพร้อมเอาไว้ก่อน เราไม่จำเป็นต้องรอให้น้ำท่วมทุ่งจนหมด แต่เราเตรียมท่อระบายน้ำไว้รอได้ คงเปรียบได้อย่างนั้น

เมื่อเราเตรียมตัวดังว่าเอาไว้แล้ว เมื่อเกิดภัยพิบัติแล้วต้องทำอย่างไรต่อดีล่ะทีนี้?

เกิดภัยพิบัติ

สติ สติ สติ!

ก่อนอื่นเราต้องตั้งสติ ประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้เร็ว ข่าวสารการแจ้งเตือนจากภาครัฐ / เมือง ว่าอย่างไรบ้าง?

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อนั่งอยู่ดี ๆ แล้วเกิดแผ่นดินไหว สิ่งแรกที่ควรทำคือ ย้ายสมาชิกทุกคนในบ้าน รวมถึงสัตว์เลี้ยงของเรา เพื่อไปยังพื้นที่ปลอดภัย (ที่กำหนดร่วมกันเอาไว้) แล้วรอดูสถานการณ์ต่อไป

ห้ามขับไปไหน แล้วรอจนกว่าการสั่นจะหยุดลง (ทั้งนี้ ให้ดูตามหน้างานด้วยว่าสถานการณ์ร้ายแรงแค่ไหน เพราะบางทีการอยู่เฉย ๆ อาจอันตรายกับเราและสัตว์เลี้ยงมากกว่าเดิม)

ทว่า เมื่อคุณและสัตว์เลี้ยงกำลังเพลิดเพลินกันอยู่ในรถ แล้วดันเกินแผ่นดินไหวขึ้นมา ขั้นแรกให้คุณจอดรถ ตั้งเบรก และกอดสัตว์เลี้ยงของคุณเอาไว้ ห้ามขับไปไหน แล้วรอจนกว่าการสั่นจะหยุดลง (ทั้งนี้ ให้ดูตามหน้างานด้วยว่าสถานการณ์ร้ายแรงแค่ไหน เพราะบางทีการอยู่เฉย ๆ อาจอันตรายกับเราและสัตว์เลี้ยงมากกว่าเดิม)

การอยู่รอด เราจำเป็นต้องสละบางสิ่ง?

เป็นที่ถกเถียงอย่างมากว่า ณ เวลาแค่ช่วงสั้น ๆ ใครจะไปจิตใจอารีคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเอง ใคร ๆ ก็ต้องการเอาตัวรอดทั้งนั้น ไม่ต้องไปพูดถึงสัตว์เลี้ยงให้เสียเวลาเลย เอาแค่หันซ้ายขวาไปเช็กคนรอบข้างก็ถือเป็นเรื่องเสียเวลามากแล้วในยามคับขัน

กลับไปเรื่องเดิม ให้เรามีสติมากเพียงพอ แล้วปฏิบัติแผนที่เตรียมเอาไว้ คุณและสัตว์เลี้ยงจะปลอดภัย แต่บางทีหอบลูกและสามี-ภรรยา ก็มากเกินแล้ว ไม่มีพื้นที่พอให้สัตว์หรอก ในกรณีเช่นนี้ควรทำอย่างไรดี

ทางที่ดีอย่าปล่อยสัตว์เลี้ยงทิ้งไว้เมื่อเกิดภัยพิบัติ Cr. Pexels

ผู้เขียนเชียร์อย่างสุดแรงเกิดว่า ให้พาสัตว์เลี้ยงของคุณไปด้วย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คิดเสียว่าเขาเป็นมนุษย์ เป็นเพื่อนเราคนหนึ่ง แต่เมื่อสถานการณ์ทำให้เราต้องละทิ้งสัตว์เลี้ยงของเราไว้ที่บ้านจริง ๆ ก็ถือเป็นทางที่เลือกไม่ได้

สิ่งที่ทำได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้นก็คือ อย่าล่าม กักขัง หรือใส่สัตว์เลี้ยงของคุณเอาไว้ในพื้นที่ปิดตาย เพราะหากทำเช่นนั้นเท่ากับการฆ่าสัตว์เลี้ยงของคุณทั้งเป็น ทางที่ดี ควรปล่อยสัตว์เลี้ยงของคุณให้เป็นอิสระ สัตว์มีสัญชาตญาณเผลอ ๆ เก่งกว่ามนุษย์เราเสียอีก ในการเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่ตัวเองตกอยู่ในอันตราย

อย่าล่าม กักขัง หรือใส่สัตว์เลี้ยงของคุณเอาไว้ในพื้นที่ปิดตาย Cr. Unsplash

หากมีเวลาเพียงพอ ควรเตรียมน้ำอาหารไว้ให้สัตว์เลี้ยงของเราไว้สำหรับเพียงพอ2-3 ก็ยังดี เผื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว กลับบ้านมา สัตว์เลี้ยงของเราจะไม่ได้อยู่ในสภาพหิวโหย อย่าลืมว่า ส่วนใหญ่แล้ว สัตว์ไม่ได้ตายจากภัยพิบัติโดยตรง แต่ตายจากการขาดน้ำ-อาหาร

หลังเหตุการณ์สงบลงแล้ว...

แม้จะเป็นภาพที่ไม่น่าอภิรมย์สายตาเท่าไร เพราะเมื่อเกิดภัยพิบัติทีไร สภาพบ้านเรือน ท้องถนน มักจะกระจายเละเทะ อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว หรือ Aftershock ก็ตาม

เมื่อเข้าสู่สถานการณ์นี้แล้ว หลัก ๆ มีอยู่ 2 กรณี ฝั่งแรกคือเก็บสัตว์เลี้ยงไว้กับตัว และอย่างหลังคือ ไม่รู้อะไรทั้งนั้นว่าสัตว์เลี้ยงเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ก่อนอื่น สัตว์ของคุณจะตื่นกลัวเป็นอย่างมาก หากมีกำลังใจมากเพียงพอ แบ่งไปปลอบสัตว์เลี้ยงของคุณบ้างก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก และควรพาสัตว์เลี้ยงของคุณไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย เราย้ำอีกครั้ง

สภาพแวดล้อมของเมืองหลังถูกแผ่นดินไหวถล่ม ทุกอย่างจะพังทลาย และอยู่ในสภาพที่ไม่ปกติ ดังนั้น หากเราปล่อยสัตว์เลี้ยงของเราให้เดินเพ่นพ่านไปทั่วบริเวณ อาจไปกินของแสลงเข้า หรือถูกไฟช็อตจากไฟฟ้าที่ลัดวงจร อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

ควรดูแลสัตว์เลี้ยงให่ดีหลังเกิดแผ่นดินไหว Cr. Wallpaper Flare

พูดถึงกรณีแรกไปแล้ว มาถึงกรณีที่สอง ส่วนใหญ่จะยังอยู่ในสภาพตื่นกลัว หมายถึงเจ้าของนะ ซึ่งเข้าใจได้ เพราะนี่มันภัยพิบัตินะ ใคร ๆ ก็ต้องตื่นกลัวเป็นธรรมดา ปัญหาอีกระลอกคือ ไม่ได้พาสัตว์เลี้ยงมาด้วย ทำให้ตอนนี้ไม่รู้ว่าสัตว์เลี้ยงหายไปไหน หรือไปติดซากอยู่ที่ใดหรือเปล่า

ขอให้อย่าตื่นตระหนก จากนั้น ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลเรื่องนี้ในพื้นที่ของคุณ ให้พวกเขาช่วยตามหา บอกข้อมูล และหากใครยังเก็บอุปกรณ์ที่เตรียมเอาไว้ในช่วงต้น สิ่งเหล่านั้นจะมาสำคัญเอาก็ตอนนี้นี่แหละ งัดออกมาใช้ให้หมด

บางที เจ้าหน้าที่อาจตีวงการค้นหาให้แคบลงได้จากภาพถ่าย เมื่อมีของอำนวยความสะดวกพวกนี้ก็จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่าย และหาสัตว์เลี้ยงของคุณได้เร็วขึ้น อย่างน้อยก็รู้ว่ายังอยู่ หรือกลับดาวไปแล้วน่ะนะ...

 

 

 

ที่มา: wagwalking , the hindu

เนื้อหาที่น่าสนใจ

related