svasdssvasds

เปิดข้อกฎหมาย “ซื้อขายอวัยวะ” หลังลุงขายผลไม้ ประกาศขายตาใช้หนี้นอกระบบ

เปิดข้อกฎหมาย “ซื้อขายอวัยวะ” หลังลุงขายผลไม้ ประกาศขายตาใช้หนี้นอกระบบ

ใครเดือดร้อนเงินอย่าเพิ่งรีบประกาศขายอวัยวะ ขายมั่วๆ ผิดกฏหมาย หลังลุงขายผลไม้ข้างทางประกาศขายดวงตาชดใช้หนี้นอกระบบ

SHORT CUT

  • ลุงขายผลไม้ข้างทางประกาศขายดวงตาชดใช้หนี้นอกระบบ หลังกู้เงินมาลงทุนแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เป็นทางออกสุดท้าย

  • หมอแล็บแพนด้า เป็นกำลังใจให้ลุงขายผลไม้พร้อมเตือนถึงกาารซื้อขายอวัยวะยังไม่สามารถทำได้ เพราะผิดกฏหมาย

  • สำหรับการขายอวัยวะในประเทศไทยเป็นเรื่องผิดกฏหมาย ญาติสามารถบริจาคให้ญาติได้ หรือคู่ที่จดทะเบียนสมรสสามารถทำได้

ใครเดือดร้อนเงินอย่าเพิ่งรีบประกาศขายอวัยวะ ขายมั่วๆ ผิดกฏหมาย หลังลุงขายผลไม้ข้างทางประกาศขายดวงตาชดใช้หนี้นอกระบบ

ที่ผ่านๆ มาเราจะเห็นข่าวการบริจาคอวัยวะหรือร่างกาย ของผู้เสียชีวิตที่ประสบอุบัติเหตุ หรือสมองตาย ซึ่งเป็นบุญกุศลครั้งใหญ่เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ต้องการอวัยวะต่างๆให้มีชีวิตรอดอยู่บนโลกต่อไป

การบริจาคอวัยวะ หรือ การบริจาคร่างกาย คือการมอบอวัยวะ เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยที่อวัยวะนั้นๆ ที่เสื่อมสภาพ หรือป่วยระยะสุดท้าย อวัยวะได้มาอาจได้มาจากผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการบริจาคหรือญาติที่มีความประสงค์จะบริจาค ส่วนการอุทิศร่างกายให้นักศึกษาแพทย์ใช้ศึกษา นั้นเรียกกันว่า “อาจารย์ใหญ่” ผู้บริจาคต้องเสียชีวิตเท่านั้น

ล่าสุดบนโลกโซเชียล ได้มีประเด็นเกี่ยวกับการประกาศขายดวงตาเกิดขึ้น โดยเพจ หมอแล็บแพนด้า ได้โพสต์ภาพชายนั่งขายผลไม้รายหนึ่งมีป้ายกระดาษข้อความที่วางบนโต๊ะขายผลไม้เขียนว่า “ขายดวงตา 1 ข้าง” โดยทางเพจได้ระบุว่า

“น่าสงสารแกเหมือนกันนะครับ เห็นนั่งขายผลไม้อยู่แถวบางบอน 1 ประกาศขายดวงตา 1 ข้าง ซึ่งการซื้อขายอวัยวะยังไม่สามารถทำได้ครับ เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่สามารถบริจาคให้กันได้ อย่างเช่น ไต โดยต้องมีความยินยอมจากญาติและตัวผู้บริจาคเองยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสามารถฝ่าวิกฤตการเงินในครอบครัวไปได้ด้วยดีนะครับ”

เปิดข้อกฎหมาย “ซื้อขายอวัยวะ” หลังลุงขายผลไม้ ประกาศขายตาใช้หนี้นอกระบบ  

ทั้งนี้สาเหตุที่ ชายคนดังกล่าวประกาศขายดวงตา เพราะเป็นหนี้สินนอกระบบ และได้กู้เงินมาลงทุนแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ แม้จะมาขายผลไม้ก็ยังไม่เพียงพอชดใช้หนี้ จึงตัดสินใจเขียนป้ายประกาศขายดวงตา 

สำหรับการขายอวัยวะ เป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่สามารถบริจาคได้ คือ

  • ตอนที่มีชีวิตอยู่ ญาติสามารถบริจาคให้ญาติได้ หรือคู่ที่จดทะเบียนสมรสก็สามารถให้ไตกันได้ หรือผู้มีจิตศรัธา
  • ให้ตอนสมองตาย คนที่สมองตายทางการแพทย์ถือว่าเป็นผู้เสียชีวิตแล้ว โดยความยินยอมจากญาติและตัวผู้บริจาคเอง

เปิดข้อกฎหมาย “ซื้อขายอวัยวะ” หลังลุงขายผลไม้ ประกาศขายตาใช้หนี้นอกระบบ

แหล่งที่มาของอวัยวะมาจากบุคคลที่ยังมีชีวิต

ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย 

ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา295 และ มาตรา 297 อนุมาตราสาม เนื่องจากลักษณะเฉพาะของการซื้อขายอวัยวะจะต้องมีขั้นตอนการดำเนินการผ่าตัด ซึ่งกรณีที่แพทย์ผ่าตัดเอาอวัยวะออกจากร่างกายของผู้ให้อวัยวะที่ยังเป็นผู้ที่มีชีวิตและมีสุขภาพปกติ ย่อมไม่ใช้การกระทำตามมาตรฐานทางวิชาชีพ แพทย์ไม่มีอำนาจกระทำการ ดังนั้น การกระทำของแพทย์จึงเป็นการกระทำผิดฐานทำร้ายร่างกาย

ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ในกรณีที่แพทย์ ผ่าตัดนำอวัยวะที่มีความสำคัญต่อชีวิต เช่น หัวใจ ออกจากร่างกายของผู้ให้อวัยวะ การกระทำของแพทย์ย่อมเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่า เนื่องจากแพทย์ย่อมรู้ถึงการกระทำของตนว่าหากผ่าตัดนำอวัยวะดังกล่าวออกจากร่างกายของผู้ให้อวัยวะแล้ว ผู้ให้อวัยวะจะถึงแก่ความตาย

ความผิดฐานค้ามนุษย์

ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 6 ซึ่งหากบุคคลใดกระทำการครบองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ประการ ได้แก่ องค์ประกอบของลักษณะของการกระทำ องค์ประกอบของวิธีการ และองค์ประกอบของการแสวงหาประโยชน์จากบุคคลซึ่งคือเจตนาพิเศษตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น บุคคลนั้นกระทำ ความผิดฐานค้ามนุษย์

แหล่งที่มาของอวัยวะมาจากบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว

 ความผิดฐานทำให้ศพเสียหาย

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 366/3 ต้อง เป็นการทำให้ศพ ส่วนของศพ อัฐิ หรือเถ้าของศพ เสียหาย เคลื่อนย้ายศพ ทำลายศพ ทำให้ศพ นั้นเสื่อมค่าหรือไร้ประโยชน์ โดยไม่มีเหตุอันสมควรในการกระทำ ถ้าหากว่าการกระทำของบุคคล นั้นกระทำโดยมีเหตุสมควรแล้วย่อมจะไม่เป็นความผิด เช่น การชันสูตรพลิกศพ การเคลื่อนย้ายศพเพื่อการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ดังนั้น เมื่อพิเคราะห์ถึงการซื้อขายอวัยวะที่ต้องมีการตัดอวัยวะจากศพเพื่อนำไปซื้อขาย การกระทำที่ผู้ที่ตัดอวัยวะย่อมจะต้องเป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะกระทำ ผู้ที่ตัดอวัยวะจากศพจึงอาจเป็นการกระทำผิดตามมาตรานี้ได้

ความผิดฐานดูหมิ่นเหยียดหยามศพ

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 366/4 โดยการกระทำที่เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามศพมีความหมายครอบคลุมทั้งการดูหมิ่นเหยียดหยามทั้งโดยวาจาและการกระทำ จึงมีความหมายกว้าง โดยอาศัยแนวคำพิพากษาฎีกาที่ 2809/2511 ที่วินิจฉัยว่าดูหมิ่นเป็นการเหยียดหยามทาให้อับอาบขายหน้าลดคุณค่าดูถูก พูดจาเหยียดหยามต่อผู้ถูกดูหมิ่น หรือทำด้วยกริยาอย่างอื่น ดังนั้น ผู้เขียนจึงเห็นว่าการตัดอวัยวะจากศพเพื่อนำไปแสวงหาประโยชน์ทางการเงินก็สามารถเทียบเคียงได้กับการลดทอน คุณค่าได้เช่นเดียวกัน

ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ซึ่ง คุณธรรมทางกฎหมายของความผิดฐานนี้ คือ การคุ้มครองกรรมสิทธิ์ในตัวทรัพย์ ซึ่งคุ้มครองทั้งคุณค่าของวัตถุนั้นและการทรัพย์ด้วยการแปรสภาพไปจากเดิมโดยไม่ให้ทรัพย์นั้นเสื่อม หรือถูกทำลาย โดยที่เจ้าของทรัพย์ไม่ยินยอม ดังนั้นจึงมีประเด็นที่ต้องพิจารณาในเบื้องต้นก่อนว่า ร่างกายของผู้ที่ถึงแก่ความตายหรือศพถือว่าเป็นทรัพย์ อันจะทำให้การกระทำต่อร่างกายผู้ที่ถึงแก่ความตายหรือศพเป็นการกระทำผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ได้หรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้ศาลฎีกายังไม่เคยวินิจฉัยไว้ว่าศพเป็นทรัพย์หรือไม่ โดยในหลายประเทศเห็นว่าศพไม่มีสถานะเป็นทรัพย์สิน และศาลต่างประเทศมีการตัดสินว่าสถานะของศพไม่ใช่ทรัพย์สิน ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันแม้ว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุปสถานะของศพจะเป็นทรัพย์หรือไม่ การตัดอวัยวะเพื่อนำไปซื้อขายโดยพลการ ย่อมจะเป็นการกระทำผิดในลักษณะของการทำลายศพตามบัญญัติความเกี่ยวกับศพที่มีการบัญญัติแก้ไขขึ้นใหม่ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related