svasdssvasds

ขาใหญ่ ในตลาดหุ้น : ‘กระทรวง’ ซุปเปอร์เทรดเดอร์ คืนกำไรตลาดหุ้น สู่การเรียนรู้นักลงทุนรุ่นใหม่

ขาใหญ่ ในตลาดหุ้น  :  ‘กระทรวง’ ซุปเปอร์เทรดเดอร์  คืนกำไรตลาดหุ้น สู่การเรียนรู้นักลงทุนรุ่นใหม่

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

 

ขาใหญ่ ในตลาดหุ้น 

‘กระทรวง’ ซุปเปอร์เทรดเดอร์

คืนกำไรตลาดหุ้น สู่การเรียนรู้นักลงทุนรุ่นใหม่

ไม่ว่าผมจะมีเงินเท่าไร ร้อยล้าน พันล้าน ผมก็กินข้าวได้แค่ 3 มื้อ ขับรถได้ทีละคัน ผมไม่สามารถนำเงินติดตัวจากโลกนี้ไปได้” เป็นคำกล่าวที่ “กระทรวง จารุศิริ” เรียกตัวเองว่าเป็นนักลงทุนหุ้นมูลค่า (Value Invester)  ได้ตกผลึกความคิดมาแล้ว แม้ว่าวันนี้ในวัย 38 ปี เขาจะมีพอร์ตลงทุน 3 หลักก็ตาม แต่เขาไม่เคยตั้งเป้าที่จะเพิ่มพูนพอร์ตลงทุนไปหลักพันหรือหลักหมื่นล้านบาท

ชีวิตในวันนี้ของ “กระทรวง” หรือ ฉายาที่วงการนักลงทุนเรียกขานว่า “ซัน Survivor Trader” เขาแค่ต้องการให้ครอบครัว คนรอบข้างตัวมีความสุข จึงได้ตกผลึกความคิดรวบยอดออกมา ที่ไม่ได้ยึดตัวเลขในบัญชีเป็นที่สรณะของชีวิต

ก่อนที่ “กระทรวง” จะประสบความสำเร็จ มีที่ยืนบนตลาดทุน อย่างภาคภูมิใจในวันนี้ ได้ผ่านบทเรียนอันเจ็บแสบ ที่เขากลับจำมันได้อย่างแม่นยำ จากเงินก้อนแรก 5 แสนบาท ที่เข้าลงทุนในตลาดหุ้นปี 2545 ด้วยหุ้นตัวแรก ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) ซื้อ 22 บาท ขาย 33 บาท กำไรถือว่าประสบความสำเร็จ พอร์ตขยายสู่ 2 ล้านบาท  ผ่านมา 2 ปี วันที่ 29 กันยายน 2547 หุ้นที่เขาไม่เคยลืม เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์  (WORK) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก อารมณ์ชั่ววูบอัดซื้อหมดพอร์ต ที่ราคา 21 บาท  ชั่วพริบตาราคาหุ้นร่วงตํ่ากว่า 20 บาท  ตัดสินใจขายขาดทุน พริบตาเดียว 5 นาที โดนไป 2 แสนบาท

“คืนนั้นผมกลับมาต้มมาม่ากิน เพราะคิดว่าเสียตังค์ 2 แสนหรือและคิดได้ว่า ที่เป็นอย่างนี้เพราะผมโอเวอร์เทรด ใส่เงินมากเกินไปกับหุ้นไอพีโอ แล้วทำไมต้องมาต้มมาม่ากิน จากนั้นมาผมก็คิดได้ว่า เวลาขาดทุนจะกินอะไรก็ได้ที่แพงๆ ทุกวันนี้ผมไม่ซีเรียสกับการใช้เงิน อยากกิน อยากได้อะไรก็ซื้อ ไม่คิดมาก เพราะรู้สึกว่าถ้าเงินซื้อความสุขได้ ให้ครอบครัว คนรอบตัว ผมจะไม่เสียดายกับเงินที่เสียไป ผมพยายามควบคุมความโลภไม่ให้ชี้นำ แต่ใช้เหตุผลนำมากกว่า ความโลภไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ถ้าโดยปราศจากเหตุผล ไล่หุ้นไม่รู้เรื่อง ความเสียหายจะเกิดขึ้น”

การเรียนรู้ไม่มีสิ้นสุด จากเงิน 5 แสนบาท สู่พอร์ต 5 ล้านบาท ในปี 2550 เขาเสียหายจากการลงทุนอีกครั้งในยุคซับไพรม์ หุ้นปูนซิเมนต์ที่ลงทุน ราคาลดลงเหลือมูลค่าในพอร์ตเพียง 1.7 ล้านบาท จึงตัดใจขายออกหมด และคิดว่าต้องเอาคืนได้มากกว่าที่โดนไป 3 ล้านบาท เพียง 1 ปีเศษเขาเอาคืนได้จริงๆ จากการลงทุนหุ้นเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ที่เพิ่มพอร์ตขึ้นไปได้กว่า 10 ล้านบาท หลังปี 2551 จึงยอมทิ้งเงินเดือนจากธุรกิจค้าทองของครอบครัว มุ่งสู่การเป็นนักลงทุนเต็มตัว และโด่งดังจากการเข้าร่วมแข่งขัน “ได้แชมป์แฟนพันธุ์แท้ตลาดหุ้นในปี 2013” ด้วยความรู้ปริญญาตรีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี-ปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำให้เขาวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานการลงทุนอย่างเฉียบขาด

จากวันนั้นถึงวันนี้ “ซัน” ไม่เคยลืมว่า ตลาดหุ้นมีบุญคุณกับเขาที่สร้างตัวจากตลาดหุ้น จึงได้คืนกำไรนี้ออกมาในรูปการให้ความรู้ ความเข้าใจการลงทุนอย่างยั่งยืนกับคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่รู้การลงทุน ซึ่งทำด้วยใจรัก จึงรวมตัวกับพันธมิตรร่วมกันก่อตั้งกลุ่มบริษัท ซุปเปอร์ เทรดเดอร์ฯ ขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของการให้ความรู้นักลงทุนรุ่นใหม่ ในรูปบริษัทที่ดำเนินการต่าง ๆ เช่น SPT Republic บริษัทอบรมความรู้ให้นักลงทุน

รุ่นใหม่ โดยไม่มุ่งหวังรายได้, โครงการ Super Trader Thailand  รายการทีวีที่เฟ้นหานักลงทุนคุณภาพ, บริษัท SPT Publishing ผลิตหนังสือ หรือบริษัท SPT International บริษัทพานักลงทุนท่องโลกการลงทุนในประเทศสิงคโปร์ และโปรแกรมการลงทุน“Stockquadrants” ที่เจ้าตัวคิดสูตรการลงทุนหุ้นพื้น

ฐานและเทคนิค มารวมกันจากการทดลองพบว่าผลตอบแทนปีละ 28%  ไม่นานจะออกมายลโฉมเป็นเครื่องมือลงทุนให้ใช้กัน

คอลัมน์ : ขาใหญ่ ในตลาดหุ้น/ หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ / ฉบับ 3299 ระหว่างวันที่ 24-27 ก.ย.2560

related