ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน : ทำไมต้อง พล.อ.ประวิตร?

ทำไม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหมถึงต้องตกเป็นเป้าหมายของผู้ที่ต้องการทำลายหรือบั่นทอนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช.

คำตอบง่ายๆ ก็คือ พล.อ.ประวิตร คือจักรกลอันสำคัญในการสร้างฐานเครือข่ายทางอำนาจของ คสช. ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์

ในการพลิกขั้วอำนาจจาก “ระบอบทักษิณ” โดยล้มรัฐบาลสมชาย ให้กลับมาอยู่ในมือของฝ่ายต่อต้านด้วยการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำนั้น อย่าลืมว่าเป็นฝีมือใคร?

เนวิน เพื่อน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งเป็นลูกน้อง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ คนนามสกุลเดียวกับ พล.อ.ประวิตร คือผู้ทำให้ดิวนั้นสำเร็จ ทำให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี

ฐานของฝ่ายต่อต้านทักษิณทั้งในกองทัพและส่วนอื่นๆ จึงถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นเครือข่าย

ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งรับไม้ต่อตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก จาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นเพียงผู้คุมอำนาจเบ็ดเสร็จในกองทัพ!

จากการที่เป็นคนเก็บตัว มุ่งมั่นทำงานในกองทัพและรับใช้สถาบัน ด้านหนึ่งแม้จะเป็นผลดีในเรื่องความโปร่งใส ที่ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มอำนาจและผลประโยชน์ แต่อีกด้านหนึ่งก็ทำให้สังคมของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้นแคบยิ่ง

แต่อย่าลืมว่าอำนาจที่ชี้ขาดความเป็นไปของประเทศนี้ ก็คืออำนาจของกองทัพบก ที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถเป็นหัวหน้าคณะ คสช. และนายกรัฐมนตรี

แต่ที่สำคัญท่าน พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ คือน้องรักที่ พล.อ.ประวิตร วางรากฐานในกองทัพเอาไว้ให้

แม้หลักฐานจะไม่มี แต่ความจริงที่เกิดขึ้นนั้น กระหึ่มไปทั่วจากปากของผู้มีส่วนได้เสีย จากปากหนึ่งไปสู่อีกปากหนึ่ง

วันหนึ่งมันก็กลายเป็นกระแส และทั้งหมดก็พุ่งตรงไปที่ พล.อ.ประวิตร ที่เป็นต้นทาง แต่ไม่ว่ากระแสจะพุ่งตรงไปที่ พล.อ.ประวิตร สักเท่าไหร่ พล.อ.ประวิตร ก็ยืนยงอยู่ในตำแหน่ง และทั้งความสำคัญและอำนาจก็ยังไม่เคยลดลงทั้งในรัฐบาล และคสช.

สำนวนไทยที่ได้ยินกันบ่อยๆ “ตกม้าตาย” นั้น เที่ยวนี้ต้องจับตาดูว่าแค่เรื่องแหวนเพชรและนาฬิกาที่สะดุดตาผู้คนเพียงเพราะยกขึ้นมาบังแดด จะทำให้ พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ตกม้าตายได้หรือไม่?

………………..

คอลัมน์ : ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน/ หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  / ฉบับ 3322 ระหว่างวันที่ 14-16 ธ.ค.2560