พื้นที่ตอนเหนือ ‘ทวีปยุโรป’ เผชิญสภาพอากาศลมแรง ท่ามกลางความหนาวเย็น ส่งผลให้เกิดความโกลาหล ทั้งมีอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย
วันที่ 19 ม.ค. 61 -- สภาพอากาศลมแรงเกิดขึ้นทั้งในเนเธอร์แลนด์, เยอรมนี และเบลเยียม โดยที่ประเทศเนเธอร์แลนด์มีกระแสลมพัดแรงถึงกว่า 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ต้นไม้และเศษกระเบื้องหลังคาอาคารปลิวว่อน ระบบคมนาคมและขนส่งมวลชน ทั้งรถยนต์, รถไฟ และเครื่องบิน ต่างได้รับผลกระทบ ต้องหยุดให้บริการ
สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ ต้องยกระดับเตือนภัยเป็นสีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับพายุมีแล้วอย่างน้อย 8 ราย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 2 นาย ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเยอรมนี ส่วนผู้เสียชีวิตในเนเธอร์แลนด์ มีอย่างน้อย 3 ราย และที่เบลเยียม 1 ราย ขณะเดียวกัน ที่เยอรมนีก็มีรถบรรทุกสินค้าหลายคันถูกกระแสลมแรงพัดพลิกคว่ำตกถนนหลวง บ้างก็เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน เพราะกระแสลมพัดรถยนต์แล่นข้ามเลน
ขณะที่ ทางการเยอรมนี ระบุว่า พายุลูกนี้ ชื่อ ‘เฟรเดอริค’ ถือเป็นพายุรุนแรงที่สุด ที่พัดถล่มเยอรมนีนับตั้งแต่ปี 2560 โดยพายุพัดมาจากทะเลเหนือผ่านทางเนเธอร์แลนด์และพัดไปถึงเบลเยียม
ขณะเดียวกัน สนามบินนานาชาติสคิพโพล ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ต้องระงับการขึ้นลงเครื่องบินมากถึง 320 เที่ยวบิน เพื่อความปลอดภัย
ด้าน บริษัทประกันวินาศภัยในเนเธอร์แลนด์ ประเมินความเสียหายจากพายุพัดถล่มครั้งนี้ อาจมากถึงกว่า 10 ล้านยูโร