ใจถึงสุดๆ! 'ตร.บ้านไผ่'ล้วงคอห่านยึดยาบ้ากว่า10,000เม็ด

วันนี้ ( 20 มี.ค. 2561)  พ.ต.อ.จำรัส จันแดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อม  พ.ต.ท.ดิเรกฤทธิ์  ปานเรือนแสน รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านไผ่ และชุดสืบสวน ร่วมสอบปากคำ นายปรีชา อ่อนละมุล อายุ 34 ปี  หลังถูกเจ้าหน้าที่จับได้ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง พร้อมของกลางยาบ้า 30,000 เม็ด  ยาบ้าเปียกน้ำ น้ำหนัก 321.513 กรัม  เงินสด 100,470 บาท รถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด 4 ประตู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

พ.ต.อ.จำรัส กล่าวว่า ตำรวจเฝ้าติดตามพฤติกรรมาผู้ต้องหารายนี้มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งยืนยันแน่ชัดว่า นายปรีชา คือ ผู้ค้ารายใหญ่ในพื้นที่ โดยทำการเช่าห้องพักภายในรีสอร์ตชื่อดังแห่งหนึ่งใน ต.หนองน้ำใส เป็นจุดจำหน่ายยาเสพติด จึงประสาน ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 7 ซึ่งขณะจู่โจมจับนั้น นายปรีชา  ได้หอบห่อยาบ้าทิ้งลงชักโครกในห้องน้ำรีสอร์ต  ทำให้ยาบ้าบางส่วนตกเกลื่อนพื้นนับรวมได้ 10,000 เม็ด  ส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่พยายาม ล้วงเอายาบ้าออกมาจากชักโครกได้ในสภาพเปียกน้ำ นอกจากนี้ ยังตรวจค้นในห้องพัก พบเงินสดซ่อนอยู่ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง

จากการ สืบสวนสอบสวน พบผู้ต้องหามีการนัดส่งมอบยาบ้า บริเวณริมถนนเลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-กาฬสินธุ์  เขต ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จึงขยายผลตรวจจับเครือข่ายของนายปรีชาได้ของกลางอีกรวม  20,000 เม็ด

เบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพว่า รับยาบ้าทั้งหมดมาจากพ่อค้าในกรุงเทพฯ และเครือข่ายยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยช่วงถูกตำรวจจับนั้น กำลังเตรียมส่งมอบยาบ้ากันในจุดนัดพบ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบยาบ้าตามที่ผู้ต้องหาให้การ จึงยึดไปตรวจสอบ

ผกก.สภ.บ้านไผ่ กล่าวต่อว่า  จากการตรวจสอบผู้ต้องหาเคยถูกจับคดียาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง เพิ่งออกจากคุกมา 7 เดือน แต่ไม่เข็ดหลาบ ยังกลับไปจำหน่ายยาบ้าในพื้นที่ จ.ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง โดยรับยาบ้ามาจำหน่ายครั้งละ 20,000  เมื่อขายยาบ้าหมด จึงจะโอนเงินเข้าบัญชี

หลังการสอบปากคำเสร็จสิ้น ตำรวจจึงตั้งข้อกล่าวหา นายปรีชา ฐานมียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อเสพและจำหน่าย ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างตำรวจสอบสวนผู้ต้องหานั้น  ผู้ต้องหาอยู่ในอาการลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด  มีอาการคึกคะนอง  กระดิกเท้าอยู่ตลอด คาดว่าน่าจะเกิดจากการเสพยาบ้า ก่อนถูกตำรวจจับตัวได้