คป.ตร.ขอเเต่งตั้งกรรมการฏิรูปตำรวจเพิ่ม 

คป.ตร.เรียกร้องตั้งเพิ่มกรรมการปฏิรูปตำรวจ ชี้ไม่มีตัวแทนประชาชน-ตำรวจผู้น้อย และผู้เคยมีบทบาทผลักดันแก้โครงสร้างตำรวจร่วมวงเลย เดินหน้าตั้งเวทีคู่ขนานประกบกรรมการปฎิรูป 

วันที่ 6 ก.ค.60 นางสมศรี หาญอนันทสุข ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (Police Watch) ให้สัมภาษณ์รายการ ”ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ” เอฟเอ็ม 98.5 เมกะเฮิร์ตซ์ สถานีข่าวสปริงเรดิโอ เวลา 15.00-15.30 น. ว่า เครือข่ายประชาชนปฎิรูปตำรวจ (คป.ตร.) เห็นว่า คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจที่ตั้งขึ้นจะทำงานไม่สำเร็จตั้งแต่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ประกาศใช้แล้ว เพราะโครงสร้างคณะกรรมการตามที่ระบุในรัฐธรรมนูญ กำหนดให้มีจำนวนตำรวจหรืออดีตตำรวจเป็นสัดส่วนเท่ากันกับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทำให้กลายเป็นเวทีเพื่อให้ตำรวจกำกับหรือชี้นำการปฎิรูปไปในทิศทางที่ตำรวจต้องการ มากกว่าจะเปลี่ยนแปลงเพื่อประโยชน์ของประชาชน ซึ่งคป.ตร.ได้ชี้ปัญหานี้มาก่อนแล้ว 

นางสมศรี กล่าวว่า เมื่อมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ จำนวน 36 คนเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ยิ่งปรากฎชัดว่า คณะกรรมการในส่วนของตำรวจก็เป็นระดับนายตำรวจผู้ใหญ่ ไม่เคยมีบทบาทหรือภูมิหลังการทำงานในด้านการปฎิรูปตำรวจมาก่อนเลย ขณะที่กลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวเสนอให้มีการปรับปรุงองค์กร อาทิ สมาพันธ์พนักงานสอบสวน หรือตัวแทนนายตำรวจชั้นผู้น้อย ไม่ได้รับเลือกให้เข้ามาเป็นกรรมการด้วย 

นางสมศรี กล่าวว่า เช่นเดียวกับตัวแทนในส่วนของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒินั้น ก็เป็นคนที่ไม่เคยสนใจหรือมีบทบาทในการผลักดันเรียกร้องในประเด็นเรื่องการปฏิรูปวงการตำรวจมาก่อนแต่อย่างใด ขณะที่มีหลายคนที่เคยทำงานในเรื่องนี้โดยตรงมาก่อน ทั้งที่เป็นตำรวจและไม่ได้เป็นตำรวจ กลับไม่ได้รับแต่งตั้ง หรือภาคประชาสังคมก็ไม่ได้เข้าไปนั่งเป็นกรรมการเพื่อสะท้อนปัญหาจากระบบที่เป็นอยู่แม้แต่คนเดียว 

คป.ตร.จึงเรียกร้องว่า ขอให้ตั้งตัวแทนจากส่วนต่าง ๆ ที่ยังขาดอยู่เข้าไปเพิ่มเติมในคณะกรรมการปฎิรูปตำรวจ เพื่อให้ได้สะท้อนมุมมองข้อเสนอที่หลากหลาย เพราะถ้าเป็นกรรมการ 36 คนที่ตั้งมา เชื่อว่าท้ายสุดจะไม่เกิดการปฏิรูปตำรวจได้จริง  นอกจากการปรับเปลี่ยนตามความต้องการของตำรวจเท่านั้น 

ทั้งนี้ คป.ตร.จะร่วมกับองค์กรภาคประชาชนทั่วประเทศ ผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจที่ถูกต้อง โดยจะจัดเวทีภาคประชาชนคู่ขนานกับคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เริ่มจากวันที่ 15 ก.ค.นี้ เพื่อนำข้อเสนอยื่นต่อคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเรียกร้อง 3 เรื่องหลักคือ 1.แยกอำนาจสอบสวนออกจากตำรวจโดยสิ้นเชิง 2.กระจายอำนาจให้ตำรวจไปสังกัดผู้ว่าราชการจังหวัด 3.โอนหน่วยตำรวจที่มีกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ เป็นเจ้าพนักงาน 9 หน่วยไปรับผิดชอบ เช่น ตำรวจป่าไม้  ตำรวจน้ำ