svasdssvasds

นายกฯฮึ่มห้ามรัฐมนตรีเรียกส่วย ไถเอง โดน 2 เท่า ส่วยภูเก็ตขีดเส้นใน 30 วัน ต้องรู้ผล

นายกฯฮึ่มห้ามรัฐมนตรีเรียกส่วย ไถเอง โดน 2 เท่า ส่วยภูเก็ตขีดเส้นใน 30 วัน ต้องรู้ผล

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้ปล่อยปะละเลยในปัญหาการทุจริต หลายคดีได้นำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ทั้งบุคคลทั่วไป นักการเมือง ซึ่งมีหลายคดีที่ไม่เกิดขึ้นมาก่อน แต่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่สิ่งที่กังวลในวันนี้คือ การเรียกรับผลประโยชน์ในระดับล่างหลายๆหน่วยงาน โดยอ้างชื่อคนนั้นคนนี้ อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้จัดชุดสายสืบพิเศษลงไปตรวจสอบ ทั้งห้างร้านที่เคยถูกเรียกรับส่วยเดือนละ 3,000-5,000 บาท ศุลกากรให้ตรวจสอบทั้งหมด และขอประกาศว่าห้างร้านต่างๆ ไม่ต้องจ่ายเงินใครทั้งสิ้น ถ้าจับได้ตนจะลงโทษคนทำเป็น 2 เท่า

“นอกจากนี้ยังได้สั่งการในที่ประชุมครม. โดยกำชับรัฐมนตรีและผู้ใกล้ชิดรัฐมนตรีว่าเมื่อสั่งการแล้ว สายงานจะต้องไม่ไปบิดเบือนเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ของตัวเองหรือพรรคพวก ถ้าเจอ ผมจะลงโทษทั้งหมด ผมเชื่อมั่นแต่ยังมีคนรอบๆ ตัวพวกเขาด้วย เพราะประเทศไทยมีระบบเครือญาติ หรือคนสนิท”

 

ส่วนกรณีมีผู้ร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่เรียกรับส่วย จากผู้ประกอบการใน จ.ภูเก็ต รวมเป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้รักษาราชการแทนพล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ไปสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีคำสั่งย้ายนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง 12 นาย ให้มาปฏิบัติหน้าที่ใน ตร.แล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ต้องเป็นห่วงต่อเรื่องตำรวจสอบตำรวจ เพราะถือว่าเป็นกลไกปกติ การตรวจสอบต้องไม่ทิ้งในทุกประเด็นออกไป ไม่ใช่ว่าจะตัดสินกันเองว่าผิดหรือถูก โดยทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน ทั้งทุจริต เก็บส่วย ความเชื่อมโยงระหว่างตำรวจกับฝ่ายปกครอง การขัดแย้งผลประโยชน์ การซื้อขายตำแหน่ง ฯลฯ ซึ่งสามารถส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาให้รัฐบาลและตำรวจได้  ขณะที่ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่ามอบหมายให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รักษาราชการแทนจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ดูแล หากมีหลักฐานขยายผลไปถึงบุคคลใดก็จะดำเนินการตามนั้น

 

related