ปายเดือด! ร้านข้าวต้มเสียงดัง "เจ้าของ-ลูกจ้าง" ถูกเป่า ดับ 3 ศพ

  หนุ่มปายเดือดควงปืนยิง เจ้าของร้านข้าวต้มพร้อมภรรยาและลูกน้อง หลังยิงเสร็จมือปืนยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยสาเหตุเปิดดึก หนวกหู นอนไม่หลับ จึงยิงปืนไล่ เจ้าของร้านมาด่าเลยชักปืนยิงดับคาที่ ตามไปยิงภรรยาภายในร้าน เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (5 ม.ค.) ร.ต.อ.รัชพล นุ้ยป้อม ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันตายภายในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง ห่างจากป้อมยามตำรวจ สภ.ปาย ประมาณ 300 เมตร หลังรับแจ้ง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์พยาบาล โรงพยาบาลปาย ที่เกิดเหตุเป็นร้านข้าวต้ม ที่ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน อยู่ติดริมถนนสาย 1095 ห่างจากจุดตรวจป้อมยามตำรวจ สภ.ปาย ประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ศพ คือ นายบัณฑิต จีระธนดล อายุ 46 ปี เจ้าของร้านข้าวต้ม และ นายธนากร วิทยาบำรุง อายุ 45 ปี ลูกจ้างร้านข้าวต้ม เป็นชาว อ.สามพร้าว จ.อุดรธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้น 9 มม. นอนเสียชีวิตบริเวณหน้าโรงแรมติดกับร้านข้าวต้ม ส่วน น.ส.เยาวลักษณ์ มูลมีรัตน์ อายุ 47 ปี ภรรยาเจ้าของร้านข้าวต้ม ถูกยิงด้วยปืนลูกซองยาว นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ภายในร้านข้าวต้ม โดยมีนาย กิตติ อภัยภักดี มือปืน ยืนมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า เมื่อเวลา 01.00 น. ของคืนเดียวกัน ผู้ตายกับพวกรวม 6 คน นั่งดื่มกินกันและส่งเสียงดังภายในร้านข้าวต้ม จนถึงเวลา 04.00 น. ก็ยังไม่เลิก ทำให้นาย กิตติ อภัยภักดี ผู้ต้องหาซึ่งอยู่บ้านติดกัน ได้ยิงปืนเตือนที่บริเวณด้านหลังโรงแรม ทำให้นายบัณฑิต จิระธรดล เจ้าของร้าน และนายธนากร วิทยาบำรุง ลูกจ้าง ลุกจากโต๊ะอาหารภายในร้าน เดินไปหาและทะเลาะมีปากเสียงกัน นายกิตติ ผู้ต้องหา จึงได้ใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม.ยิงผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ตายคาที่บริเวณหน้าโรงแรม จากนั้น นายกิตติ ได้ไปเอาอาวุธปืนลูกซองยาวอีกกระบอก เดินเข้าไปในร้านข้าวต้ม ยิง น.ส.เยาวลักษณ์ มูลมิรัตน์ ภรรยา นายบัณฑิต เสียชีวิตอีก 1 ศพ ภายในร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปาย ดำเนินคดีต่อไป พ.ต.อ.วรพล พลมณี ผกก.สภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาเป็นลูกเขยโรงแรมแห่งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมของกลางอาวุธปืน ขนาด 9 มม. 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ซึ่งเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นตรวจสอบปืนทั้ง 2 กระบอกมีทะเบียนถูกต้อง คืนเกิดเหตุร้านข้าวต้มปิดไปแล้วไม่มีลูกค้ามานั่งกิน มีเพียงเจ้าของร้านกับเพื่อนๆ ยังนั่งกันอยู่ ส่วนศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ศพ จะนำส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ เนื่องจากยังมีหัวกระสุนคาอยู่ในร่างผู้ตาย ซึ่งสาเหตุทั้งผู้ต้องหาและผู้ตาย เคยทะเลาะวิวาทกันมาก่อน