"บิ๊กโจ๊ก" บุกรวบหนุ่มไต้หวัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ คาห้องพักหลักฐานอื้อ

ตำรวจท่องเที่ยว ขยายผลจับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ย่านบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ รวบหนุ่มวัยรุ่นชาวไต้หวัน คาห้องพักย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญ ยอมรับทำหน้าที่กดเงินพร้อมของกลางจำนวนมาก วันนี้ ( 23 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) นำกำลังตำรวจท่องเที่ยว , ตำรวจ 191 และตำรวจ สน.สุทธิสาร เข้าจับกุม นายเชน ฟัน เว้ย (Chen fan wei) อายุ 18 ปี ชาวไต้หวัน ภายในห้องพักย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญ พร้อมตรวจยึดเงินสด บัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีหลายรายการ หลังทราบว่า นายเชน ฟัน เว้ย ทำหน้าที่เป็น "ม้ากดเงิน" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุว่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นการขยายผลมาจากการจับกุมกลุ่มเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ย่านบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเมื่อก่อนจะใช้คนไทยทำหน้าที่กดเงิน แต่ระยะหลังมีการกวดขันจับกุมรวมถึงตัวผู้รับจ้างเปิดบัญชี ทำให้คนไทยหลายคนเริ่มเข้ากระบวนการ จึงไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในเครือข่าย แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติเหล่านี้ และจากการตรวจสอบการเดินทางเข้าประเทศไทย ของหนุ่มไต้หวันรายนี้ พบว่า เข้าประเทศไทยครั้งแรกในฐานะ นักเท่องเที่ยว ระยะเวลา 3 วัน เพื่อมากดเงินจากบัญชี โดยได้รับค่าจ้างวันละ 7,000 บาท และกดเงินไปแล้วกว่าหนึ่งล้านบาทในระยะเวลาเพียงหนึ่งวัน ในการสอบปากคำ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้รับการชักชวนจากเพื่อนชาวไต้หวันด้วยกันให้มาทำงานกับเครือข่ายแก๊งค์ขอเซ็นเตอร์ข้ามชาติเพื่อแลกกับเงินค่าจ้าง ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ยังแสดงความเป็นห่วง เกี่ยวกับขบวนการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ เนื่องจากเริ่มมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยเฉพาะการโอนเงินระหว่างประเทศ จะเปลี่ยนมาใช้ระบบ BitCoin มากขึ้น ซึ่งสถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วงเนื่องจากมีวัยรุ่นและเยาวชนไทยจำนวนมากเริ่มหันมาลงทุนกับระบบ BitCoin ซึ่งถือว่ายังผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนั้นในวันพรุ่งนี้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวเตรียมนัดหารือกับบริษัทบิทคอยน์ ที่มาตั้งศูนย์ที่ประเทศไทยจำนวนสี่บริษัท เพื่อวางกรอบและแนวทางการตรวจสอบเส้นทางการเงินและอายัดเงินในบัญชีบิทคอยน์เพื่อคืนให้กับผู้เสียหาย เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์