svasdssvasds

ชอบปลูกต้นไม้ ช่วยให้อายุยืน

ชอบปลูกต้นไม้ ช่วยให้อายุยืน

งานวิจัยล่าสุดระบุว่าการทำสวนหรือปลูกต้นไม้ มีประโยชน์ทั้งต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ทำให้ความเครียดลดลง ความเสี่ยงในการเกิดโรคสมองเสื่อมลดลง และมีโอกาสที่จะเกิดโรคที่เกี่ยวกับมะเร็งและโรคทางเดินหายใจน้อยลง

เราคงพอทราบกันดีว่า การได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดความเครียด และทำให้จิตใจผ่อนคลาย มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ระบุว่า การปลูกต้นไม้หรือการชอบทำสวน มีส่วนช่วยให้คนอายุยืนร่วมร้อยปี มาดูกันว่าเป็นไปได้อย่างไร

งานวิจัยชิ้นนี้ ศึกษาผู้สูงอายุจากชุมชนในประเทศที่ได้ชื่อว่าคนอายุยืนมากที่สุด ได้แก่ ชุมชนจาก เกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น คาบสมุทรนิโคยา ประเทศคอสตาริกา เกาะไอคาเรีย ประเทศกรีซ เมืองโลมา ลินดาในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และเกาะซาร์ดิเนียในประเทศอิตาลี

คนในช่วงอายุที่เรียกว่า บลูโซน (Blue Zone) นี้ มีปัจจัยบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเครือข่ายสังคมที่ให้การสนับสนุน การมีนิสัยชอบออกกำลังกายทุกวัน การกินอาหารประเภทผักและผลไม้เป็นหลัก แต่พวกเขามีสิ่งที่คาดไม่ถึงอีกหนึ่งอย่างร่วมกัน คือผู้สูงอายุชอบทำสวนจนถึงวัยแก่เฒ่า แม้ในอายุ 80-90 ปีหรือแก่กว่านั้น

การชอบทำสวนช่วยให้คุณมีอายุถึงร้อยปีได้จริงหรือ

การทำสวนทำให้อารมณ์ดี

เรารู้กันดีว่า การใช้ชีวิตกลางแจ้ง และออกกำลังกายในระดับปานกลาง มีความเชื่อมโยงกับการมีอายุยืนยาวขึ้น การทำสวนเป็นวิธีง่ายๆที่ทำให้บรรลุเป้าหมายทั้งสองประการ เพราะการทำสวนทำให้คนมีกิจกรรมทางกายภาพแบบที่ไม่เครียดได้เกือบทุกวันและคนส่วนใหญ่มักทำจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน นักวิจัยกล่าวว่า มีหลักฐานชัดเจนว่า คนที่ชอบทำสวนมีอายุยืนยาว และเครียดน้อยกว่าคนที่ไม่ทำสวนเลย มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันข้อเท็จจริงนี้ โดยระบุว่าการทำสวน มีประโยชน์ทั้งต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต

ในงานวิจัยจากประเทศเนเธอร์แลนด์เมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยขอให้ผู้ร่วมงานวิจัยทำงานชิ้นหนึ่งที่เครียดมาก จากนั้น จึงแบ่งผู้ร่วมงานวิจัยออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งอ่านหนังสืออยู่ในอาคาร อีกกลุ่มหนึ่งไปทำสวนนอกอาคารเป็นเวลา 30 นาที กลุ่มที่อ่านหนังสือรายงานผลว่า อารมณ์ของเขาย่ำแย่ลง ในขณะที่กลุ่มที่ไปทำสวนไม่เพียงแต่มีระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความเครียดลดลงหลังจากนั้น แต่เขายังรู้สึกว่า จิตใจได้รับการฟื้นฟูเข้าสู่โหมดอารมณ์ดีอีกด้วย

นักวิจัยชาวออสเตรเลียติดตามเก็บข้อมูลกลุ่มหญิงชายในช่วงวัย 60 ปี พบว่าคนที่ชอบทำสวนเป็นประจำ มีความเสี่ยงในการเกิดโรคสมองเสื่อมลดลง 36% เมื่อเทียบกับคนในวัยเดียวกันที่ไม่สนใจการทำสวน

การศึกษาเบื้องต้นของผู้สูงอายุที่เป็นโรคเกี่ยวกับการรับรู้ เช่นโรคสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ ระบุประโยชน์ของการจัดสวน รวมถึงการบำบัดที่อาศัยศาสตร์จากวิชาพืชสวน ยกตัวอย่างเช่น แสงแดดและอากาศบริสุทธิ์ช่วยกระตุ้นให้ผู้สูงอายุรู้สึกอบอุ่นขึ้น ในขณะที่สีและผิวสัมผัสของพืชผักนานาชนิดก็ช่วยกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวด้านการรับรู้และการมองเห็น

ไม่มียาครอบจักรวาลที่จะมารักษาอาการแก่ตัวลง แต่ผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ก็ระบุว่า การทำสวนดูจะช่วยปรับปรุงคุณภาพของชีวิตให้ดีขึ้นในยามที่เราแก่ตัวลง

ปล่อยให้ธรรมชาติบำรุงร่างกายของเรา

การทำสวนไม่ได้มีผลเฉพาะแต่กับสุขภาพของเราเท่านั้น แต่ประโยชน์ที่ได้ทางสังคมก็มีส่วนช่วยยืดอายุของเราได้เช่นกัน การศึกษาคนแก่ในโอกินาว่าที่อายุเกิน 100 ปีขึ้นไป ซึ่งมีสัดส่วนคนที่มีอายุเกิน 100 ปีขึ้นไปสูงที่สุดในโลก คือประมาณ 50 คนต่อประชากร 1 แสนคน พบว่าประชากรจำนวนมากยังคงทำสวนส่วนตัวขนาดเล็ก แม้จะแก่ตัวลงแล้วก็ตาม

  • นักวิจัยกล่าวว่า การทำสวนมีประโยชน์ในแง่มุมอื่น ที่ทำให้อายุยืนมากขึ้นด้วยเช่นกัน คนในโอกินาว่ากล่าวกันว่า คนที่แก่ลงอย่างมีสุขภาพดี ต้องการเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ หรือ ikigai การทำสวนทำให้คนรู้สึกว่ามีอะไรให้ตื่นขึ้นมาทำได้ทุกวัน

นอกจากนี้ นักวิจัยยังให้คุณค่ากับความหมายของคำว่า การเชื่อมโยงทางสังคมในระดับสูง หรือ yuimaru อีกด้วย การได้มาพบปะพูดคุยกันในตลาดชุมชน การนำผลผลิตจากสวนของตัวเองมาขายและแบ่งปันพืชผักที่ปลูกได้จากในสวน เป็นกิจกรรมทางสังคมที่สำคัญมากสำหรับผู้สูงอายุเหล่านี้ และแน่นอนว่า เป็นสิ่งที่ช่วยให้เขารู้สึกว่าได้เชื่อมโยงกับสังคมรอบตัว

ความรู้สึกว่าได้เชื่อมโยงกับคนอื่นๆ เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่การเชื่อมโยงตัวเองกับธรรมชาติ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน มีงานจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดที่แสดงให้เห็นว่า คนที่แวดล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวของต้นไม้ มีอายุยืนยาวกว่า และมีโอกาสน้อยลงที่จะเกิดโรคที่เกี่ยวกับมะเร็ง และโรคทางเดินหายใจ

ในปัจจุบันนี้ แพทย์ในสกอตแลนด์สามารถออกใบสั่งยาในรูปแบบของการเดินท่ามกลางธรรมชาติเพื่อบำบัดอาการของโรคหลายชนิด รวมถึงการลดความดันโลหิตและความกังวลใจลง และเพื่อเพิ่มความสุขโดยรวม การทำสวน ที่รวมถึงการปลูกต้นไม้บนพื้นที่ผืนเล็กๆในย่านใจกลางเมือง เป็นวิธีเชื่อมโยงธรรมชาติเข้าสู่ชีวิตประจำวันของคุณ

ท้ายที่สุดแล้ว การทำสวนยังช่วยในเรื่องขององค์ประกอบด้านอาหารที่ทำให้อายุยืนอีกด้วย นักวิจัยแสดงให้เห็นว่า อาหารเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอุดมไปด้วยผัก ผลไม้ ธัญพืชแบบไม่ขัดสี ถั่วเปลือกแข็ง ปลา และน้ำมันมะกอก มีความเชื่อมโยงกับการแก่ช้าลง

นอกจากนี้ ยังมีนักวิจัยที่กล่าวว่า หลักการเบื้องต้นของการกินอาหารที่อุดมไปด้วยผักสดจากสวนและตลาดในท้องถิ่น มีความสำคัญมากต่อการมีอายุยืน ยกตัวอย่างเช่น ในเมืองโอกินาว่า คนส่วนใหญ่ปลูกผักในส่วนของตัวเอง เช่น ผักประเภทแตงขมและมันหวาน

เมื่อคุณกินผักที่คุณปลูกเอง ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ผักมีรสชาติอร่อยขึ้น และสุขภาพของคุณก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะคุณได้รับวิตามิน เกลือแร่ และส่วนประกอบอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจากอาหารโดยตรง ผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานเกี่ยวกับผู้สูงอายุแนะนำว่า อาหารควรประกอบด้วยพืชผัก 90% โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักสีเขียวและถั่ว รวมทั้งชี้ให้เห็นความจริงที่ว่า นักทำสวนมักจะปลูกพืชผักที่ตัวเองอยากกิน

ทำไร่แล้วอายุยืนขึ้น จริงหรือไม่

ถ้าการปลูกต้นไม้เป็นเรื่องที่ดี งั้นทำไร่จะไม่ยิ่งดีไปกว่านั้นหรือปัจจัยของวิถีชีวิตหลายอย่างที่เชื่อมโยงกับการมีอายุยืน เช่นการอยู่ในพื้นที่ชนบท และได้รับการออกกำลังกายมากพอ ก็ใช้ได้กับคนที่ทำไร่เช่นกัน

มีหลักฐานที่แสดงว่า การทำไร่เป็นอาชีพที่ดีต่อสุขภาพที่สุดอาชีพหนึ่ง การศึกษาจากออสเตรเลียแสดงให้เห็นว่า โอกาสที่เกษตรกรจะเป็นโรคเรื้อรังลดลง 1 ใน 3 และมีโอกาสไปหาหมอลดลง 40% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ทำงานด้านการเกษตร นักวิจัยจากสหรัฐอเมริกาเปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มเกษตรกรกับอัตราของประชากรโดยทั่วไป และพบว่าเกษตรกรมีโอกาสเสียชีวิตโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวานน้อยกว่า นอกจากนี้การศึกษาในประเทศสวีเดนและฝรั่งเศสยังพบว่า เกษตรกรมีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ได้ทำการเกษตร

งานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า คนทำฟาร์มที่รับงานอิสระใจกลางเมืองไซตามะ มีอายุยืนยาวกว่าคนที่ไม่ได้ทำงานที่เกี่ยวกับการทำฟาร์ม หลายคนเป็นเกษตรกรพาร์ทไทม์ หรือผู้ที่เกษียณอายุแล้ว และหลายคนรับผิดชอบงานที่เกี่ยวกับการตกแต่งสวน ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว เกษตรกรส่วนใหญ่ประสบปัญหาการเป็นหนี้สูง และมีแนวโน้มที่จะได้รับอันตรายจากการทำงาน นอกจากนี้ เกษตรกรรมได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เกษตรกรในทุกประเทศทั่วโลกกำลังประสบอยู่

อย่างไรก็ตาม การทำสวนหรือการทำไร่ ก็ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันมั่นเหมาะว่าเราทุกคนจะมีอายุยืนยาวถึงร้อยปี แต่ปัจจัยด้านวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกิจกรรมทั้งสองประเภทนี้ ได้แก่ การได้ออกไปอยู่กลางแจ้ง และทำกิจกรรมทางกายภาพกลางแดด รวมถึงการกินอาหารพืชผักเพื่อสุขภาพ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราอายุยืนขึ้น ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่ปัจจัยทั้ง 4 ซึ่งได้แก่ อาหาร กิจกรรมทางกายภาพการดูแลจิตใจ และการเชื่อมโยงทางสังคม มีความสมดุลกัน ก็ค่อนข้างเชื่อได้ว่า เราจะเป็นคนที่มีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพแน่นอน

related