svasdssvasds

ฉลาดเกมส์โกง เมื่อความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พวกเขาจึงต้องกลายเป็นอาชญากรระดับโลก

ฉลาดเกมส์โกง เมื่อความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พวกเขาจึงต้องกลายเป็นอาชญากรระดับโลก

รีวิว ฉลาดเกมส์โกง เดอะซีรี่ส์ จากภาพยนตร์สู่ละครโทรทัศน์ ที่เข้มข้นและน่าสนใจไม่แพ้ในแบบฉบับภาพยนตร์ ทั้งในแง่ของบทและการแสดงอันยอดเยี่ยม

ฉลาดเกมส์โกง คือปรากฏการณ์ของหนังไทยที่ดูแล้วแอ็คชั่นที่สุด แม้มันจะไม่ใช่หนังแอ็คชั่น เพราะด้วยเรื่องราวที่ใหม่ ลุ้นระทึก ของการโกงข้อสอบ ราวกับการอาชญากรรมข้ามชาติเลยทีเดียว ทำให้กวาดรางวัลทั้งในและต่างประเทศไปมากพอสมควร ยังไม่รวมรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ มาการันตีด้วยคำวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยมด้วยกันทั้งนั้น

ทำให้ GDH คิดที่จะเอาฉลาดเกมส์โกง มาขายเรื่องราวให้น่าสนใจ เพิ่มความลึกซึ้งของตัวละครมากขึ้น จึงได้ทำ ฉลาดเกมส์โกงในแบบซีรี่ส์ ที่ออกอากาศผ่านช่องวัน 31

หลังจากจบไปแล้วกับละคร "ฉลาดเกมส์โกง" เวอร์ชั่นละคร ที่ยกเครื่องนักแสดงหน้าใหม่ แต่คาแรคเตอร์เดิม จึงทำให้คุณดูคาดหวังกับละครเรื่องนี้มาก  จึงไม่แปลกที่คนดูจะอยากเห็นจักรวาล "ฉลาดเกมส์โกง" ที่ถูกขยายไปมากกว่านี้

ในแง่ของตัวละคร แทบจะทุกตัวได้ถูกขยายให้มีมิติ มีที่มาที่ไปมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น

- ครอบครัวของลิน ที่ได้พี่แท่ง มารับบทพ่อ ที่ดูหนุ่มขึ้นมาจากเวอร์ชั่นภาพยนตร์นิดหน่อย ดูซีเรียส และการได้ปรากฏตัวแม่ของลิน ที่ได้เลิกลาจากพ่อของลิน เพราะอยากมีอนาคตที่ดีกว่านี้ จึงได้ทิ้งสามีและลินไว้ และตนมาเรียน ใช้ชีวิตในต่างประเทศ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า ส่วนลิน เป็นเวอร์ชั่นที่เข้าถึงได้ง่าย อาจจะเป็นเพราะเสน่ห์ของ จูเน่ (อดีต BNK48) ที่ดูสวย น่ารัก กว่าเวอร์ชั่นของภาพยนตร์ที่ดูซีเรียส จริงจังกว่า

- ครอบครัวของแบงค์ เราได้เห็นการปรากฏตัวในบทแม่ของ แบงค์ ที่ดูหมดหวังกับชีวิตกับภาระหน้าที่ หนี้สิน และอาการเจ็บป่วยของตนเองมากขึ้น ส่วน แบงค์ ที่รับบทโดย เจ้านาย เป็นบทเจ้านายที่ดูซีเรียสพอๆ กับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ (แต่อาจจะอ้วกไม่เก่งและรับบทโหด ต้องไปนอนในกองขยะแบบในหนัง) เป็นแบงค์ที่ดูสับสนในตัวเองมากขึ้น หลังจากโดนด้านมืดครอบงำในจิตใจเขาไปแล้ว

- ครอบครัวของพัฒน์ เป็นการเห็นว่าครอบครัวของพัฒน์ ทั้งพ่อและแม่ ได้สร้างอาณาจักรตที่ยิ่งใหญ่ไว้ให้ ยกเว้นความสามารถและความฉลาด ทำให้พัฒน์ต้องเอาตัวรอด และรับฟังคำสั่งจากพ่อให้ได้ พ่อสั่งให้ทำอะไร ก็ต้องทำ ค่อนข้างเผด็จการด้วยซ้ำ ส่วนพัฒน์เอง ค่อนข้างจะกลัวพ่อมากๆ แต่ถึงจุดที่ทนไม่ไหว พัฒน์ก็จะระเบิดความรู้สึกออกมา และหนีออกจากบ้านไป

- ครอบครัวของเกรซ ในหนังค่อนข้างไม่มีที่มา ที่ไป แต่ในซีรี่ส์พบว่าครอบครัวของเกรซ ทำโรงพิมพ์ขนาดกลาง ไม่ค่อยมีสตอรี่มากมาย แต่ที่ยังเหมือนเดิมคือ เกรซ อยากเป็นนางเอกละครเวทีที่เคยใฝ่ฝัน เราจึงได้เห็นซีนการไปแคสละคร และเล่นละครเวทีไปด้วย แม้ในภาพยนตร์จะไม่มีก็ตาม

ฉลาดเกมส์โกง เมื่อความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พวกเขาจึงต้องกลายเป็นอาชญากรระดับโลก

สิ่งที่ชอบมากกว่าในหนัง

1. ตัวละครถูกปูนพื้น มีมิติมากขึ้นกว่าเดิมมาก

2. ตัวละครมีเรื่องราวให้เล่ามากกว่าการไปโกงข้อสอบ คือ ความสัมพันธ์ที่มีให้กันระหว่าง เพื่อน แฟน ทั้ง ลิน - แบงค์ และ พัฒน์ - เกรซ

3. ในหนัง เราจะเจอตัวละครอย่าง "บรรจง" นักเรียนที่อยากหาวิธีโกงข้อสอบ ซึ่งในส่วนของซีรี่ส์ จึงได้เพิ่มเพื่อนอีกหลายๆ คน เพื่อเพิ่มเรื่องราวของผู้ที่ต้องการโกงข้อสอบ และช่วยกันโกงข้อสอบ ให้ดูเป็นการโจรกรรมระดับโลกไปอีกขั้นหนึ่ง

4. โปรดักชั่นดีไซน์ นอกจากจะถ่ายทำแบบภาพยนตร์ ยังมีการวางมุมกล้อง จัดแสง ได้สวยอีกด้วย โดยเฉพาะฉากในโรงพิมพ์ ค่อนข้างทำออกมาดีที่เดียว

5. ฉากจบ จะไม่จบค้างคาแบบภาพยนตร์ มีการเพิ่มฉากกการโกงข้อสอบ GAT อีกด้วย ทำให้จุดนี้ คนที่อาจจะเบื่อๆกับการดำเนินเรื่องที่เห็นไปแล้วในภาพยนตร์ กลับมาสนใจในเวอร์ชั่นในละครมากขึ้น เพราะในหนังไม่มีฉากนี้เลย

ฉลาดเกมส์โกง เมื่อความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พวกเขาจึงต้องกลายเป็นอาชญากรระดับโลก

สิ่งที่ไม่ชอบ

1. บางฉากที่ควรจะเปลี่ยนให้ดูลุ้นในแบบละครกลับไม่มี

2. ตัวละครบางตัว ยังไม่ทำให้เราเชื่อและอินไปกับตัวละครนั้นๆ

3. ถ้าการทำละครฉลาดเกมส์โกงแบบที่ไม่เหมือนในหนัง ทั้งตัวละคร และบท มันจะดีมาก เพราะคุณจะไม่สามารถเดาอะไรได้เลย

ฉลาดเกมส์โกง เมื่อความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พวกเขาจึงต้องกลายเป็นอาชญากรระดับโลก

แต่โดยรวมแล้ว หนังก็ยังพูดถึงสิ่งที่มันกระทบต่อสังคมไทยคือ

1. ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา รวยก็เรียนโรงเรียนดีๆ จนก็เรียน รร ที่เราพอจ่ายไหว

2. ฉลาดแต่จน หนทางที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต อาจจะต้องผ่านชีวิตที่ยากลำบาก ความซวย ความผิดพลาดอาจจะเกิดในชีวิต อย่างที่ตัวละครบอกว่า "แต่แกไม่โกง ชีวิตแม่งก็จะโกงเราอยู่ดี"

3. รวยแต่โง่ บางทีเด็กที่เกิดมารวย แต่ไม่มีความสามารถ ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากใช้เงินเพื่อซื้อความสำเร็จ ซื้ออำนาจ ยังไม่รวมพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยเงินอีก โดนพ่อแม่กดดันก็มี ชีวิตนี่ไม่ว่าจะฐานะไหนก็ไม่มีความพอดีเลยนะ

4. ความเชื่อใจกัน ความเชื่อใจ ต่อให้สร้างกันในหลายๆครั้ง แต่พอหายไปครั้งเดียว ทั้งหมดคือจบสิ้น

ส่วนจะมีซีซั่นที่ 2 หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป